“อุตตม” ปลื้ม “ทีโอที-กสท” ปรับตัวดีขึ้น

รมว.ไอซีที เผย 2 รัฐวิสาหกิจทั้งทีโอที และ กสท ปรับตัวได้ดีขึ้น พร้อมเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ยันคุมเข้มก่อนเสนอแผนฟื้นฟู คนร. มี.ค.นี้ เรียกทีโอทีคุยหาแผนนำคลื่น 2300 MHz มาใช้ให้เกิดประโยชน์เร็วที่สุด

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวง และหน่วยงานในสังกัดว่า หากให้ประเมินการบริหารงานของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนตามแผนเศรษฐกิจดิจิตอล และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยส่วนตัวเห็นว่าทั้ง 2 องค์กรมีความก้าวหน้าในการปรับตัวด้านการแข่งขันที่ดี และผลการดำเนินงานพลิกกลับมาเป็นบวกมากขึ้น โดยเฉพาะทีโอทีที่มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม (EBITDA) เป็นบวกกว่า 4,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ แผนงานการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 องค์กรได้ผ่านหลักการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) แล้ว และในปลายเดือน มี.ค.นี้ จะเสนอรายละเอียดแผนธุรกิจต่อ คนร.อีกครั้ง ซึ่งในด้านไอซีทีเองในฐานะที่กำกับดูแลทั้ง 2 รัฐวิสาหกิจก็พร้อมจะสนับสนุนเพื่อให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ ดังนั้น ในช่วงวันที่ 10 มี.ค.นี้ จะเรียกทีโอที และ กสท มาเสนอแผนธุรกิจต่อไอซีทีก่อน เพราะหากมีข้อมูลตรงไหนที่มองว่าน่าสนใจจะให้รัฐวิสาหกิจไปเพิ่มเติมเพื่อจะได้รับการอนุมัติจาก คนร.ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของทีโอทีที่ค่อนข้างประสบวิกฤตด้านการเงินหลังจากที่ไม่มีส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาร่วมการงานกับบริษัทเอกชนนั้น เบื้องต้น ในแผนธุรกิจด้านกลุ่มโทรศัพท์มือถือซึ่งทีโอทีจะร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในย่านความถี่ 2100 MHz ทีโอทีก็รายงานความคืบหน้าว่าขณะนี้เอกสารรายละเอียดสัญญาที่จะมีการลงนามร่วมกันอย่างเป็นทางการ อยู่ระหว่างรอให้สำนักงานอัยการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ พร้อมกับยังมีแผนเจรจายุติข้อพิพาทกับคู่สัมปทานด้วย

นายอุตตม กล่าวว่า ทั้ง 2 รัฐวิสาหกิจสามารถแข่งขันได้แต่ก็ต้องมีพันธมิตรมาร่วมธุรกิจเพื่อจะได้เพิ่มโอกาสการแข่งขันด้วย เพราะทรัพยากรคลื่นความถี่มีค่ามาก ในต่างประเทศคลื่น 2300 MHz เป็นที่ต้องการเพื่อนำไปใช้งาน ซึ่งทีโอทีก็ถือครองในส่วนนี้อยู่ ตนเองจึงต้องคุยกับทีโอทีถึงแผนธุรกิจก่อนที่จะสิ้นสุดการถือครองปี 2563 ว่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ในด้านการทำงานของกระทรวงไอซีทีเอง มี KPI ที่รัฐบาลใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการดำเนินงานว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น ซึ่งจะต้องมีการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล โดยโครงการเรือธงที่ต้องดำเนินการให้สำเร็จ และใช้ได้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการสร้างอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน 3 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท รองลงมาคือ โครงการพัฒนาศูนย์ดิจิตอลชุมชน ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท พร้อมเริ่มโครงการทันทีต้นปีหน้า

นอกจากนี้ ไอซีทียังได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการทำแฟลตฟอร์มแอปพลิเคชัน อี-เลิรน์นิ่งเพื่อใช้สอนภาษาอังกฤษให้แก่ข้าราชการทั่วไป เพื่อให้รองรับการเปิดเออีซี ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ภายใน 2 เดือนนี้ จากนั้นในเฟส 2 จะใส่ข้อมูลเกี่ยวกับด้านไวยากรณ์ คำศัพท์ด้านการศึกษาลงไปให้มากกว่าเดิม เพื่อเปิดให้นักเรียนนักศึกษาสามารถดาวน์โหลดได้

Company Related Link :
ไอซีที