xs
xsm
sm
md
lg

“แคนนอน” พร้อมลุยพรินเตอร์แท็งก์แท้ หวังชิงแชร์ 40%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

Canon Pixma G Series
แคนนอน เดินหน้ารุกตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตแบบแท็งก์แท้ หวังชิงส่วนแบ่งตลาดพรินเตอร์แท็งก์ 40% เพื่อรักษาอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 จากตลาดรวมกว่า 1 ล้านเครื่อง หลังเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมสินค้าในกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น

นายอลัน ชึง ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า จากการแข่งขันในตลาดพรินเตอร์ที่มีความต้องการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำให้แคนนอนเลือกที่จะออกผลิตภัณฑ์มาจับกลุ่มลูกค้าตลาดอิงค์เจ็ตด้วยการนำพรินเตอร์แท็งก์แท้เข้ามาวางจำหน่ายในรุ่น G ซีรีส์ ซึ่งถือเป็นพรินเตอร์แท็งก์แท้รุ่นแรกของแคนนอน ที่จะช่วยให้แคนนอนรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้ได้

โดยจากข้อมูลล่าสุดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาแคนนอนถือว่าเป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องพิมพ์ในระบบอิงค์เจ็ตด้วยส่วนแบ่งการตลาดราว 40% ทั้งในกลุ่มซิงเกิลฟังก์ชัน 50% และมัลติฟังก์ชัน 38% โดยมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และถือว่าจะรักษาอันดับ 1 ในตลาดต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ส่วนอันดับที่ 2 คือ เอปสันครองส่วนแบ่งตลาด 29% ตามด้วยเอชพี 17% และที่เหลือ คือ บราเดอร์

ข้อมูลจากทางไอดีซี ระบุว่า ในปีนี้ ตลาดรวมเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตจะอยู่ที่ราว 1 ล้านเครื่อง โดยเป็นกลุ่มเครื่องพิมพ์แท็งก์ราว 2.4 แสนเครื่อง คิดเป็นราว 24% ซึ่งปัจจุบัน แคนนอนไม่มีส่วนแบ่งในกลุ่มนี้ ทำให้ตั้งเป้าหมายว่าในปีหน้าจะสามารถชิงส่วนแบ่งจากกลุ่มนี้มาได้ราว 40% ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรวมของแคนนอนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์อิงค์เจ็ตสร้างรายได้ให้กับทางแคนนอน ประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 35% รองจากธุรกิจกล้องที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 40% ที่เหลือก็จะเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ โดยในปีหน้าจะเน้นบุกตลาดพรินเตอร์ และกล้องดีเอสแอลอาร์ รวมกับตลาดมิลเลอร์เลสที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้าด้วย

“ปีนี้การเติบโตของแคนนอนจะอยู่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่หวังว่าในปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ในระดับตัวเลขหลักเดียวจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เชื่อว่าจะดีขึ้น เพราะในปีนี้ถือเป็นปีที่มีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก ทำให้ไม่เติบโตเท่าที่ควร”

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวต่อว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 4 ที่วางจำหน่ายพรินเตอร์ในตระกูล G ซีรีส์ ต่อจากประเทศอินเดีย จีน และมาเลเซีย ที่ก่อนหน้านี้มียอดจอง และจำหน่ายสูงเป็นประวัติการณ์

“ตอนนี้กลุ่มของอิงค์เจ็ตพรินเตอร์มีทั้งหมด 30 กว่ารุ่น แบ่งเป็น 28 รุ่นมาจากเครื่องพรินเตอร์ขนาดเล็ก รวมกับพรินเตอร์แบบหน้ากว้าง ทำให้มีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่กว้าง และครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทั้งในกลุ่มลูกค้าทั่วไป และองค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็ก ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่”

ทั้งนี้ พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ในประเทศไทย บางส่วนยังมีการเลือกซื้อที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานอย่างเช่น ซื้อเครื่องพิมพ์เอกสารไปพิมพ์ภาพถ่าย หรือเลือกซื้อเครื่องขนาดใหญ่ แต่ใช้งานไม่ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน ดังนั้น แนวคิดในการทำตลาดใหม่ของแคนนอนจึงเน้นไปที่การให้ความรู้ในการเลือกซื้อพรินเตอร์ให้เหมาะสมมากยิ่งชึ้น เริ่มจากการอบรมพนักงานฝ่ายขายให้มีความรู้มากยิ่งขึ้น

แคนนอนแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 5 ส่วนง่ายๆ คิดตามปริมาณการพิมพ์ต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 10-50 แผ่น จะอยู่ในซีรีส์ S ถัดมา 30-100 แผ่น ในกลุ่ม MG ซีรีส์ 80-400 แผ่น ในกลุ่ม E ซีรีส์ 150-1500 แผ่นในตระกูล MAXIFY และสุดท้าย 300-2000 แผ่น ในตระกูล G ซีรีส์

“แคนนอนใช้เวลาในการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค 2-3 ปี ในแง่ของพรินเตอร์แท็งก์ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างการคิดค้นหัวพิมพ์ที่แยกจากตัวเครื่อง มีอายุการใช้งานถึง 15,000 แผ่น พร้อมกับการขยายระยะเวลารับประกันเพิ่มเป็น 2 ปี ถ้ามีการลงทะเบียนกับทางแคนนอน รวมถึงระยะเวลาในการเติมหมึกภายใน 6 นาที”

สำหรับ Canon PIXMA G ซีรีส์ แบ่งออกเป็นด้วยกัน 3 รุ่น คือ G1000 เป็นพรินเตอร์แท็งก์แท้แบบซิงเกิลฟังก์ชัน G2000 เป็นพรินเตอร์แบบออลอินวันแท็งก์แท้ และ G3000 พรินเตอร์ออลอินวันแท็งก์แท้แบบไร้สาย รองรับการพิมพ์ด้วยหมึกดำสูงสุด 6,000 แผ่น และหมึกสี 7,000 แผ่น ต่อการเติมหมึก 1 ครั้ง วางจำหน่ายในราคา 4,390 บาท 5,190 บาท และ 6,490 บาท ตามลำดับ โดยแคนนอน ตั้งเป้าสัดส่วนของพรินเตอร์ในตระกูล G ซีรีส์ ในรุ่น G2000 อยู่ที่ 70% ส่วน G3000 และ G1000 จะอยู่ที่รุ่นละประมาณ 15% ในขณะที่ราคาหมึกเติมของแคนนอนจะอยู่ที่หลอดละ 300 บาท โดยถ้าเป็นหมึกดำจะมีขนาด 135 มิลลิลิตร ส่วนสี 70 มิลลิลิตร
อลัน ชึง (ซ้าย) วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช (ขวา)
Company Relate Link :
Canon
กำลังโหลดความคิดเห็น