xs
xsm
sm
md
lg

เอปสันพร้อมรบตลาดโปรเจกเตอร์รุ่นใหญ่หวังขึ้นเบอร์ 1 ใน 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด
เอปสัน เผย 6 เดือนแรกตลาดโปรเจกเตอร์ยังชะลอตัว คาดทั้งปีตลาดจะโต 5-10% และมีมูลค่าตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนเอปสันคาดจะเติบโตได้ประมาณ 10% ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกกลุ่มลงตลาดหวังเพิ่มแชร์ตลาดรวมเป็น 36% ล่าสุด มุ่งรบตลาดโปรเจกเตอร์รุ่นใหญ่ด้วยการเปิดตัว G-Series พร้อมกัน 7 รุ่น อัด 4 กลยุทธ์ หวังชิงแชร์เพิ่มเป็น 10% หวังขึ้นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ภายใน 3 ปี

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดโปรเจกเตอร์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายังคงชะลอตัว และไม่ได้เติบโตเพิ่มขึ้นนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปีนี้ภาพรวมตลาดจะโตประมาณ 5-10% ส่วนเอปสันคาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 10% จากมูลค่าตลาดรวมที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเอปสันพร้อมบุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 36% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 34% ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เจาะในทุกกลุ่มตลาด

ล่าสุด เอปสันเปิดตัวโปรเจกเตอร์รุ่นใหญ่ หรือเครื่อง High Performance กลุ่ม G-Series พร้อมกันทีเดียว 7 รุ่น เพื่อเจาะตลาดออแกไนเซอร์ และธุรกิจพัฒนาคอนเทนต์สำหรับงานอีเวนต์ต่างๆ รวมถึงการใช้งานในสถานที่ขนาดใหญ่ เช่น หอประชุมในองค์กร หรือสถาบันศึกษา ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม และงานนิทรรศการ

สำหรับตลาดโปรเจกเตอร์ในเมืองไทย เอปสันมีส่วนแบ่งตลาดรวมเป็นอันดับ 1 ที่ 34% ซึ่งเมื่อพิจารณาแยกตามรุ่นสินค้าแล้ว เอปสันครองเบอร์ 1 ในตลาด Entry หรือเครื่องขนาดเล็กด้วยส่วนแบ่ง 43% เครื่องขนาด 2,000-3,999 ลูเมนส์ 33% เครื่องขนาด 4,000-5,000 ลูเมนส์ 19% ส่วนในตลาดรุ่นใหญ่ หรือ High Performance นั้น ปัจจุบันเอปสันมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 6% และอยู่ในลำดับที่ 5 จึงพร้อมรุกตลาดนี้อย่างเต็มที่

“เอปสันตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มโปรเจกเตอร์รุ่นใหญ่ที่มีระดับความสว่างตั้งแต่ 6,000 ลูเมนส์ขึ้นไป โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 10% ในปีนี้ และตั้งเป้าขึ้นสู่เบอร์ 1 ในตลาดนี้ในอีก 3 ปี ข้างหน้า ซึ่งแม้ว่าตลาดเครื่อง High Performance จะไม่ใช่ตลาดใหญ่ และมีจำนวนเครื่องขายต่อปีไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ แต่มูลค่าต่อเครื่องค่อนข้างสูง และเป็นตลาดที่น่าจับตาเพราะมีอัตราการขยายตัวทุกปี”

นายยรรยง กล่าวว่า เอปสันได้กำหนดกลยุทธ์ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า 2.เพิ่มทีมงานขายขึ้นมาเฉพาะเพื่อเป็นการสนับสนุนด้านเทคนิค และการบริการ 3.ช่องทางการขาย ซึ่งเอปสันยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีของเอปสันเป็นอย่างดี และ 4.ให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิม ดึงดูดลูกค้าใหม่ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่แบรนด์เอปสัน

ปัจจุบัน เอปสันมีศูนย์ให้บริการมากถึง 129 แห่ง เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และสำหรับสินค้าในกลุ่ม High Performance นอกจากนี้ เอปสันยังได้จัดบริการแบ็กอัปยูนิต โดยบริษัทฯ จะจัดหาเครื่องทดแทนที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเครื่องของลูกค้า พร้อมส่งให้ลูกค้าถึงมือเพื่อนำไปใช้ก่อนระหว่างรอการซ่อมที่ใช้เวลานานเกิน 48 ชั่วโมง

“เอปสัน มองว่า เทรนด์ในการเลือกใช้โปรเจกเตอร์จะเปลี่ยนไป จากเดิมที่มองเรื่องราคาเปลี่ยนมาเป็นการเลือกที่ฟังก์ชัน และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ มากขึ้นเพื่อช่วยยกระดับการนำเสนองานได้มากพอๆ กับความคุ้มค่าจากการลงทุน ซึ่งเอปสันพร้อมให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับโปรเจกเตอร์ได้ในทุกเรื่อง ไม่เพียงเท่านั้น เอปสันยังจับมือกับบริษัทพัฒนาคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าออแกไนเซอร์มากยิ่งขึ้น”

นายยรรยง กล่าวว่า ปัจจุบันเอปสันสินค้าในกลุ่มโปรเจกเตอร์วางจำหน่ายในตลาดขณะนี้เกือบ 60 รุ่น มากกว่าคู่แข่งรายอื่น จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ใช้ตามบ้าน โฮมออฟฟิศ เอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และสถาบันศึกษา

Company Related Link :
เอปสัน

Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น