xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : จับตาซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม “บ้านใหญ่” ไล่จี้ “อนาคตใหม่”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 ตอน จับตาซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม “บ้านใหญ่” ไล่จี้ “อนาคตใหม่”



นับถอยหลังเหลืออีกวันเดียว 23 ตุลาคมนี้ จะมีการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐม ภายหลังจากที่
จุมพิตา จันทรขจร จากพรรคอนาคตใหม่ ลาออกจาก ส.ส.นครปฐม เพราะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ

แม้จะเป็นการเลือกตั้งเขตเดียว แต่บรรยากาศค่อนข้างเข้มข้น เพราะเป็นศึกชิงขัยในสภาวะที่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมีเสียงปริ่มน้ำ 1 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ส. ส. หนึ่งคนจึงมีความสำคัญ

ถึงตรงนี้เรียกว่า เป็นโค้งสุดท้ายของการหาเสียงทุกพรรคทุ่มสรรพกำลัง เพื่อหวังจะเอาเก้าอี้ ส.ส.นครปฐม เขต 5 มาให้ได้

ผู้สมัครที่มีโอกาสคว้าชัยได้เข้าสภาฯ ยังเป็นตัวเก็งตั้งแต่วันแรกของการรับสมัคร ส.ส. ยังคงมีแค่ 3 คน เหมือนเดิม คือ “ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร” จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ลงมาป้องกันแชมป์แทนภรรยา

“สุรชัย อนุตธโต” จากพรรคประชาธิปัตย์ รองแชมป์จากครั้งก่อน และ “ลุงเตี้ย” เผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตเจ้าถิ่นหลายสมัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมพลาดท่าเสียแชมป์ไป

ใครจะเป็นส. ส. เขต5 ตัวจริง ก็มองกันว่า พรรคอนาคตใหม่ ยังจะสามารถป้องกันแชมป์ได้เพราะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 “จุมพิตา” ผู้สมัครคนเดิมโกยคะแนนชนะอันดับ 2 ได้แบบขาดลอย

โดยจุมพิตา ได้ 34,164 คะแนน , สุรชัย ได้ 18,970 คะแนน, ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ครั้งนี้หลบให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา ได้18,741 คะแนน และเผดิมชัย ได้ 12,279 คะแนน

ทำคะแนนเสียงทิ้งกันเป็นหมื่น หากสามารถรักษาความนิยมได้ ก็คงไม่ใช่งานยากสำหรับอนาคตใหม่ที่จะรักษาเก้าอี้ผู้แทนนครปฐมเอาไว้ได้

แต่ทว่า ครั้งนี้มีตัวแปรหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับวันที่ 24 มีนาคม 2562 เริ่มตั้งแต่การที่ “นายระวัง” จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ปล่อยคะแนนคราวก่อนที่ได้ 18,741 คะแนนไป

คะแนนของพรรคพลังประชารัฐ หากใครได้ จะมีโอกาสตีตื้น หรืออาจจะชนะพรรคอนาคตใหม่ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่า มีข้อแม้ คือคะแนนต้องไปที่พรรคใดพรรคหนึ่งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น หากเอาไปหารกัน ก็ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด

จึงอยู่ที่ว่า “นายระวัง” ยกคะแนนนี้ให้ใคร ซึ่งหลายคนมองว่า ในฐานะที่เป็นคนประชาธิปัตย์เก่าอาจจะไปช่วย “สุรชัย” แต่กลับไม่ใช่ เมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่า คนที่เหมาะสมคือ ที่จะล้มอนาคตใหม่ได้คือ “ลุงเตี้ย เผดิมชัย”

ขณะเดียวกัน ว่ากันตามสายสัมพันธ์ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐกับพรรคชาติไทยพัฒนา ดูเหมือนฝ่ายหลังจะดูดีกว่า

และหากต้องให้เลือกระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคชาติไทยพัฒนา นาทีนี้พรรคพลังประชารัฐน่าจะอยากให้ “เผดิมชัย” เข้าวิน

เพื่อไปเพิ่มเสียงให้กับพรรคสุพรรณบุรีมากกว่า เพราะการที่พรรคสีฟ้าได้เพิ่มอีก 1 เสียงจะทำให้อำนาจต่อรองในรัฐบาลมีมากขึ้น

หากย้อนกลับไปก่อนที่ “บ้านใหญ่” ตระกูลสะสมทรัพย์ จะตัดสินใจทิ้งค่ายเพื่อไทย มาอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ว่ากันว่าเบื้องหลังดีล “บ้านใหญ่” ย้ายขั้ว คือ “บิ๊กแดง” คนดัง และความสัมพันธ์ระหว่าง “บ้านใหญ่” กับ “ท็อปบูต” ก็ดีขึ้นตามลำดับ

จึงถูกมองว่า แม้พรรคพลังประชารัฐที่ลอยตัวไม่ลงไปตัดคะแนน จะประกาศว่า ไม่ถือหางใคร แต่ในทางลับๆ ก็อาจกำลังจะช่วยตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลในฝั่งพรรคสุพรรณบุรีอยู่

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ “สุรชัย” แม้จะได้อันดับ 2 แต่หากไม่ได้คะแนนสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ โอกาสจะล้มพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นไปได้ยาก

จึงวัดกันที่ตัวบุคคลระหว่าง “สุรชัย” กับ “เผดิมชัย” โดยตรง ซึ่งถ้าเทียบกับปอนด์ต่อปอนด์ ฝ่ายหลังซึ่งกำชัยมาหลายปีในพื้นที่ดูจะเหลื่อมๆ กว่าไม่น้อย

อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภายหลังจากพบความพ่ายแพ้ของ “ลุงเตี้ย” ก็ตระเวนลงพื้นที่เพื่อกู้ศรัทธาอยู่ตลอดเวลา โดยมี “เดอะท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คอยเสิร์ฟทุกสิ่งที่มีการร้องขอ เพื่อทำให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในตระกูลสะสมทรัพย์อีกครั้ง

“ลุงเตี้ย” มีข้อมูลว่า พื้นที่ใดที่เป็นจุดอ่อนของตัวเองจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา และพยายามเข้าไปพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง รอบนี้ขยันขันแข็งหาเสียงแบบลืมแก่เลยทีเดียว

แน่นอนว่า พรรคอนาคตใหม่ยังเป็นเต็งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่า กระแสของพรรคสีส้มจะไม่ได้หวือหวาเหมือนกับตอน 24 มีนาคม 2562 โอกาสเข้าวินอาจจะหลุดลอยไป บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ อาจจะเป็นฝ่ายได้ฉลองชัยแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น