xs
xsm
sm
md
lg

รู้ตัวหมดแล้วแก๊งอ้างชื่อ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” สั่งอายัดบัญชีบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม นัดสอบปากคำ 24 ก.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ปอท.ออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีปลอมแอบอ้าง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลฯ พร้อมทั้งอายัดบัญชีไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้อีก พร้อมนัดแบงก์ออมสิน-มือโพสต์เฟซบุ๊กพบ 24 ก.ย.นี้ ชี้อัตราโทษจำคุก 5 ปี

สืบเนื่องจากกรณี “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นักแสดงชื่อดัง และอาสาสมัครกู้ภัย ได้ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจ ประกาศจะนำเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี พร้อมฝากร่วมบริจาคผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารออมสินได้ ซึ่งมีคนใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวนมาก แต่ต่อมากลับมีมิจฉาชีพอาศัยช่วงวิกฤตปลอมแปลงเลขบัญชีธนาคาร จนถูกชาวเน็ตจับได้ว่าเป็นเลขบัญชีปลอม

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท.เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางธนาคารได้รับแจ้งข่าวว่า มีการนำภาพและข้อความของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาทำการแอบอ้างเพื่อขอบริจาคเงินนั้น ทางธนาคารได้ประสานตำรวจในท้องที่ มีการตรวจสอบเลขบัญชีและเชิญเจ้าของบัญชีดังกล่าวมาพบ พร้อมกับทั้งอายัดบัญชีทำให้ไม่สามารถฝาก ถอน หรือทำธุรกรรมใดๆ ได้อีก และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทาง บก.ปอท.ได้เฝ้าระวังและตรวจสอบข้อมูล ถ้าผู้กระทำมีเจตนาที่จะให้ประชาชนหลงเชื่อจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันจะทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ละปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์เผยอีกว่า ในกรณีข่าวปลอมบัญชีธนาคารรับเงินบริจาคน้ำท่วมดังกล่าว มีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท.ได้สั่งการมาให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเจ้าของบัญชี ธนาคารออมสิน คนที่โพสต์เฟซบุ๊กให้มาพบพนักงานสอสวนในวันที่ 24 ก.ย. 62 เวลา 10.00 น. ที่ บก.ปอท.


อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนว่าการกระทำลักษณะนี้อย่าควรทำ เพราะชาวบ้านประสบอุทกภัยก็ได้รับความเดือดร้อนยากลำบากอยู่แล้ว การมีคนที่มีจิตอาสาเสียสละลงพื้นที่น้ำท่วมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเปิดรับบริจาคนำเงินไปช่วยเหลือพี่น้องเหล่านั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ขออย่าใช้ช่องทางนี้ในการฉกฉวยประโยชน์ซ้ำเติมผู้ได้รับความเดือดร้อน นอกจากมีโทษทางกฎหมายที่ค่อนข้างสูงแล้วยังเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น