รวบเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ขนแรงงานต่างด้าวส่งมาเลเซีย

วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ บก.ปคม. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ุม่วง รอง ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.5 บก.ปคม. และ ร.ต.อ.ประยุทธ สอนสวาท สว.กก.5 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายบัญญัติ นวลหนูปล้อง อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 72/2562 ลงวันที่ 19 มิ.ย.2562 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาสเพื่อบังคับการใช้แรงงานหรือบริการ หรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ , นำเข้า หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พามาจากที่ใด ซื้อ ขาย จำหน่าย รับหรือหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบแปดปีขึ้นไป , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม, เป็นอั้งยี่ เป็นซ่องโจร และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและได้ลงมือกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ” ได้ที่ศาลเจ้าก๋งเต็กไต่จุนอ๋อง ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร

ทั้งนี้สืบเนื่องจากกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารลาดตระเวนได้จับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ซึ่งหลบหนีเข้าเมืองมาทางเรือที่ จ.ระนอง ได้ที่บริเวณ ฝายชะลอน้ำ ม.6 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งนำมารอนำไปส่งยังชายแดนประเทศมาเลเซีย จำนวน 27 คน โดยหลังจับกุมได้ทำการคัดแยกเหยื่อและทำการขยายผลเพื่ออกหมายจับขบวนการลักลอบขนต่างด้าว จากการขยายผลพบว่าขบวนการนี้มีผู้ก่อเหตุ 4 ราย โดยนายบัญญัติ ทำหน้าที่เป็นคนขับรถดูต้นทาง ดูจุดตรวจ ของเจ้าหน้าที่ และคอยส่งสัญญาณ เพื่อมิให้ถูกกับกุม ซึ่งต่อมาตำรวจได้จับกุมได้ 3 รายเหลือเพียงนายบัญญัติที่ยังหลบหนี กระทั่งตามจับกุมได้ดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พะโต๊ะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป