MGR online - “ดร.เซปิง” ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ พร้อมทนายเข้าศาลอาญา ยื่นฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา “บิ๊กโจ๊ก” หมิ่นประมาท แถลงข่าวดำเนินคดีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ธุรกิจเสียหาย ขณะเดียวกันยังฟ้อง “หนุ่ม-กรรชัย” อีกสำนวนในความผิดเดียวกัน เจ้าตัวระบุ ลูกค้าที่มาเป็นคนที่ไปทำมาจากที่อื่น แล้วมาให้แก้ไข แต่ข่าวกลายเป็นว่าความเสียหายเกิดจากตน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ดร.เซปิง ไชยศาสน์ อายุ 46 ปี ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ นำเอกสารหลักฐานมายื่นฟ้อง 2 สำนวน สำนวนแรกฟ้องพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ,พ.ต.ท.นพดล ปิ่นพงศ์พันธ์ รอง ผกก.สน.ลุมพินี พนักงานสอบสวนคดีเฟซออฟ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นคดีดำที่1692/2562
และสำนวนที่สอง ฟ้อง นายกรรชัย หรือ หนุ่ม กำเนิดพลอย พิธีกรทีวีรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความ กับผู้เสียหายเหยื่อศัลยกรรม ที่มาออกรายการทั้งหมด 7 คน เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เลขคดีดำที่1693/2562 โดยทั้งสองสำนวนโจทก์ ฟ้องเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยสำนวนละ 50 ล้านบาทด้วย จากการแถลงข่าวดำเนินคดี ดร.เซปิง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา
คดีสำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2562 จำเลยทั้งสองตั้งโต้ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำนองว่าโจทก์หลอกลวงประชาชนโดยใช้ข้อความว่า "จับกุมดร.เซปิง เฟสออฟ พร้อมพวกมูลค่าเสียหาย 5 ล้านบาท" แล้วมีแผนผังทำนองว่าโจทก์มีการเชื่อมโยงกับนาย บ. เพื่อฉ้อโกงประชาชน และข้อความต่างๆ ระหว่างแถลงข่าวได้เชิญนายอาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มาแถลงสนับสนุน และแถลงว่าการที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแสดงว่ามีหลักฐานเพียงพอ เป็นการย้ำว่าโจทก์กระทำความผิด เพื่อให้เห็นว่าโจทก์เป็นคนผิดไปแล้ว ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง นอกจากนี้การกระทำของจำเลยยังเป็นการละเมิด ทำให้ถูกมองอย่างเหยียดหยาม การเสียหายต่อชื่อเสียงนี้จึงขอฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
คดีที่สอง ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ก่อตั้งโครงการเฟสออฟบายด๊อกเตอร์เซปิง ให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรม หากใครจะทำก็จะแนะนำให้ไปทำกับโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2562 รายการโหนกระแสทางสถานีโทรทัศน์ช่องสาม ออกอาการรายการ "ภาค 2 เฟสออฟเปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี" มีนายกรรชัย เป็นพิธีกร เชิญจำเลยอื่นๆ มาร่วมรายการลักษณะพูดถามกันไปมามีการวางแผนใส่ความโจทก์ แม้ไม่ระบุชื่อโจทก์แต่ใช้เทคนิคตั้งชื่อหัวข้อรายการเพื่อเชื่อมโยงให้เข้าใจว่าเป็นโจทก์ กับยังเอาข่าวที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงข่าวมาอ้างอิงในรายการ โดยมีเจตนาให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาท
อีกทั้งเมื่อมีข่าวและมีการออกอากาศ รายการออกไปทำให้แทบไม่มีคนมีใช้บริการโครงการ ดร.เซปิง หรือถูกยกเลิกนัดทั้งหมด ที่โจทก์วางแผนชีวิตทำธุรกิจ และจะลงสมัคร ส.ส. แต่ชื่อเสียงต้องมาจบสิ้น จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ศาลนัดไต่สวนสำนวนแรกวันที่ 19 ส.ค. 62 เวลา 09.00 น. ส่วนสำนวนที่สอง วันที่ 9 ก.ย.2562
ภายหลังยื่นฟ้อง นส.เซปิง เปิดเผยว่า ตนใช้สิทธิตามกฎหมายฟ้อง เพราะเสียหาย ลูกค้าที่มาหาตนเป็นคนที่ไปทำมาที่อื่น มาให้แก้ไข แต่ข่าวกลายเป็นว่าความเสียหายเกิดจากตน เราถ่ายรูปสภาพใบหน้าที่เสียหายของลูกค้าก่อนมาเข้าโครงการเพื่อเป็นหลักฐาน และตนก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ด้าน นายจำนงค์ ไชยมงคล ทนายความโจทก์เผยว่า ได้ยื่นฟ้องพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กับ หนุ่มกรรชัย เรียกค่าเสียหายสำนวนละ 50 ล้านบาทแต่ถ้าจะมาไกล่เกลี่ยก็มาพูดคุยกัน ซึ่งเราก็ฟ้องตามข้อเท็จจริงที่ ดร.เซปิงได้รับความเสียหาย แต่คงไม่ฟ้องสื่อมวลชนเพราะเป็นเพื่อนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ ดร.เซปิง ถูกดำเนินคดีนั้น พ.ต.ท.สมชาย อรภักดี รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางศรีเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงยังต้องรอเอกสารที่ส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบส่งกลับมา โดยขณะนี้มีการสอบปากคำผู้เสียหายไป 18 ปาก ซึ่งยังเหลือการสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก และมีการประสานข้อมูลบางส่วนกับ สน.ลุมพินี ในการทำสำนวน โดยยังไม่มีกำหนดส่งฟ้องอัยการ
