รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2562 ตอน ครม.บิ๊กตู่ 2/1 ไม่มีเวลาฮันนีมูน
ตามไทม์ไลน์ เสร็จงานการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ก็จะเข้าสู่โหมดจัดตั้งรัฐบาลที่อั้นเอาไว้ เพื่อให้งานระดับภูมิภาคลุล่วงไปก่อน
ขณะนี้สัญญาณบอกว่า โผคณะรัฐมนตรีนิ่งหมดแล้วส่งไปอยู่ในมือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากจากที่ปรากฏเป็นข่าว
ยกเว้นในราย “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่มีปัญหาเป็นเจ้าพ่อคนดังหมดสิทธิ์นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ต้องให้มนัญญา ไทยเศรษฐ น้องสาวในไส้มาทำหน้าที่แทน แต่ก็ดันโดนขุดคุ้ยเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลใน จ.อุทัยธานี
กระแสต้านเยอะไม่รู้ “บิ๊กตู่” จะหวั่นไหวหรือไม่
กับอีกโควตาหนึ่ง ตามสัญญาลูกผู้ชายที่ให้ไว้กับ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” แกนนำพรรคชาติพัฒนา ที่แม้ว่า จะมี ส.ส.เพียง 3 คน แต่ในฐานะที่เลือกข้างชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ก็ต้องตอบแทนให้
แต่ก็เกิดอาการลำบากใจเหมือกัน หากตามโผคณะรัฐมนตรี พรรคชาติพัฒนาจะต้องได้ รมช.อุตสาหกรรม เป็นรางวัลตอบแทนที่ให้ใจมาตั้งแต่แรก แล้วทางพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ “ชัช เตาปูน” ชัชชาลย์ คงอุดม จะว่าอย่างไร ในเมื่อได้ ส.ส. 3 ที่นั่ง เท่ากับพรรคชาติพัฒนา แต่กลับไม่มีเก้าอี้
การ จัดสรรครม. ไม่สมดุล แบบฝนตกไม่ทั่วฟ้า ก็ต้องเกิดแรงกระเพื่อม บางพรรคมีความรู้สึกเหมือนลูกเมียน้อย อย่างที่ดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ตัดพ้อต่อว่าโวยวายจะถอนตัว เพราะไม่ได้ดูกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดันไปยกให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา
เหล่านี้อาจเป็นโผที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้
ขณะที่การปล่อยข่าวขุดคุ้ยภูมิหลังแคนดิเดตรัฐมนตรีแต่ละคน ตลอดจนเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ ตรงนี้ไม่น่าจะทำให้บางคนหลุดออกจากโผในรอบแรกได้ อย่างที่รู้กันปฏิบัติการดิสเครดิตเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาจัดทัพคณะรัฐมนตรี เพราะมันมีคนสมหวัง ก็ต้องมีผิดหวัง
อย่างไรก็ดี ความชัดเจนรัฐบาลใหม่ป้ายแดง มีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เมื่อนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่ารัฐบาลใหม่ จะได้กลางเดือนกรกฎาคม และจะได้เริ่มเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินเต็มตัว
คนใจร้อนรอจะได้รัฐบาลใหม่ใจจะขาดรอนๆ ก็เพราะปัญหาบ้านเมืองเริ่มจะลุกลามรอการแก้ไข คนรอนโยบายพรรคการเมืองที่ได้หาเสียงเอาไว้สู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะนโยบายแก้จนที่ไปยาหอมตอนหาเสียงเอาไว้
เช่นเรื่องที่ว่าค่าแรง 425 บาท ค่าปัจจัยการผลิตทางเกษตร และสวัสดิการต่างๆ ชาวบ้านอยากรู้ว่าจะทำได้จริงอย่างที่ปากพูดหรือไม่
เช่นเดียวกับคนคิดไอเดีย ก็อยากจะปล่อยนโยบายสู่การปฏิบัติเต็มแก่ เพราะคิดว่า น่าจะช่วยลดกระแสร้อนลงไปบ้าง หากผลงานทำออกมา ดูแล้วจบงานประชุมสุดยอดอาเซียน “บิ๊กตู่” และรัฐบาลใหม่ จะใส่เต็มอัตราศึก
โดยเฉพาะนโยบายที่เห็นผลทันที ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลใหม่เชื่อมือได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกคนนินทาว่า อ่อนปวกเปียกไร้น้ำยาในการบริหารด้านเศรษฐกิจ
ตามรูปการณ์แล้ว “รัฐบาลบิ๊กตู่ 2/1” เมื่อเดินหน้าได้ก็ไม่น่าจะมีเวลาฮันนีมูน แต่หลังจากนั้นจะเข้าสู่โหมดของจริง เพราะฝ่ายค้านที่นำโดยนายกฯเสมือนจริง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ตั้งแท่นรอเชือดรัฐบาลทหารมานานแล้ว
สภาพน่าจะคล้ายๆ กับยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปบริหารประเทศไป ต้องคอยตามเช็ดตามล้างสิ่งที่ฝ่ายค้านขยันขุดแผลขึ้นมารายวัน ยิ่งยุคนี้โซเชียลมีเดียครองโลก ทีมไซเบอร์พรรคอนาคตใหม่ก็มืออาชีพ คงได้ชี้แจงกันอุตลุด
ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ “บิ๊กตู่” อ่านสถานการณ์ออก สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ต้องเร็ว ต้องทันการณ์กว่าปัจจุบัน ไม่เช่นนั้นอาจปั่นป่วนแน่
กับอีกส่วนหนึ่งก็ต้องคอยสอดส่องกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ที่พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงกลุ่มก๊วนต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐเข้าไปบริหาร ไม่ให้ถอนทุนกันโฉ่งฉ่างจนเป็นจุดอ่อนรัฐบาล
แม้ตัว “บิ๊กตู่” จะไม่ใช่คนทำ แต่ในฐานะผู้นำรัฐบาลย่อมมิอาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ เหมือนที่ยิ่งลักษณ์ ถูกฟันคอขาดในข้อหาละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหาย ปมนี้จะถูกย้อนศรขึ้นทันควัน
การบริหารประเทศยุคนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมสองเท่า รัฐบาลชุดนี้นอกจากดูซีกฝ่ายบริหารแล้ว ยังต้องดูแลซีกนิติบัญญัติให้อยู่ในร่องในรอย เพราะเสียงที่ปริ่มน้ำ จะพลาดไม่ได้
สิ่งเดียวที่จะประคองสถานการณ์ของรัฐบาลให้เดินไปได้ นั่นคือ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้ออกมาเป็นชิ้นเป็นอันจะต้องโดนใจประชาชน จนรู้สึกได้ ซึ่งจะกลายมาเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้
แต่ถ้ายังลุ่มๆ ดอนๆ เหมือนตอนเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ น่าจะเหนื่อยแบบหืดขึ้นคอ อายุสั้นตามคาดการณ์ของจริงแน่