xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีวราห์” สั่งตั้ง กก.สอบคดีเด็ก ม.4 ถูกยิงดับ พบ ตร.ตรังบกพร่อง เปิดช่องให้มีการวิ่งเต้นคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - พ่อแม่เด็ก ม.4 ร.ร.ตรังคริสเตียน ถูกจ่อยิงศีรษะดับ ร้อง “ศรีวราห์” ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พบตำรวจทำงานบกพร่อง ไม่มีการให้พยานเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุเปิดช่องให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในการวิ่งเต้นคดี

วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอนันต์ บูรณ์ชะนะ บิดา และนางสอง บูรณ์ชะนะ มารดาของนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา จ.ตรัง ที่ถูกคนร้ายจ่อยิงศีรษะเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองฯ จ.ตรัง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 ธันวาคม 2561 เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า และถูกคู่กรณีซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ข่มขู่คุกคาม

นางสองกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2561 ได้มีคนร้ายจำนวน 3 คน นายธีรยุทธิ์ สมสู่ อายุ 51 ปี นายปัญญา บุญคง อายุ 44 ปี ชาวจ.ตรัง และนายยงค์ บัวนุ้ย อายุ 50 ปี ชาว จ.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะลูกชายของตนอย่างเหี้ยมโหด ทั้งที่ลูกชายไม่เคยมีปัญหาหรือความขัดแย้งกับกลุ่มคนร้ายมาก่อน โดยในวันเกิดเหตุลูกชายไปเอาเบ็ดตกปลาที่บ้านของนายรัชพล กลับจิตร หรือละ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคู่กรณีกับกลุ่มคนร้าย และถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน

นางสองกล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่มจับตัวคนร้ายได้ 2 ราย คือ นายปัญญา และนายยงค์ ส่วนนายธีรยุทธิ์ มือปืนที่ก่อเหตุยิงลูกชายยังอยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ แต่เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหามาแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการแจ้งให้ทางครอบครัวตนทราบ จนกระทั่งคนร้ายทั้งสองได้ประกันตัวไป ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่มีการชี้แจงขั้นตอนใดๆ นอกจากนี้ยังมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่พยายามประสานเพื่อจะจ่ายเงินค่าเสียหายและต้องการให้จบคดี แต่ตนไม่ต้องการเช่นนั้นเพราะเงินไม่สามารถซื้อชีวิตลูกของตนได้

ด้านนายรัชพลเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ตนได้ขับขี่จักรยานยนต์กลับมาจากไปขายน้ำยาง จากนั้นได้พบนางพวงภรรยาของนายธีรยุทธิ์ ขับขี่จักรยานยนต์ปาดกันไปมากว่า 3 รอบ กระทั่งตนสามารถขับแซงมาถึงบ้านได้ ด้วยความโมโหตนจึงได้ไปตัดไฟฟ้า ซึ่งบ้านของนายธีรยุทธิ์ได้ต่อไฟฟ้าจากบ้านของพ่อตน จนทำให้เกิดความขัดแย้ง กระทั่งฝ่ายผู้ต้องหากล่าวว่า “ให้กลับเข้าต่อไฟก่อนเที่ยง มิฉะนั้นจะตายโหง” อีกสักพักไม่นาน เพื่อนของนายธีรยุทธิ์ก็มาข่มขู่อีกครั้ง จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น.ในวันเดียวกันนั้น พี่สาวได้โทร.ตามให้ตนมาคุยเพื่อนไกล่เกลี่ยให้จบ จากนั้นก็ได้ตกลงกันเสร็จสิ้น กระทั่งเวลา 23.00 น.ตนและผู้ตายได้ขี่จักรยานยนต์ แต่กลับถูกกลุ่มผู้ต้องหาดักยิงจนตนได้รับบาดเจ็บและนายธีรวัฒน์ได้เสียชีวิตในที่สุด

“หลังเกิดเหตุ พี่เขยของผมได้เข้าไปเพื่อที่จะช่วยเหลือ แต่เมื่อเปิดประตูลงไปได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ไปเฉี่ยวกระโปรงหน้ารถยนต์ นอกจากนี้ ลูกชายของนายธีรยุทธิ์มาข่มขู่ลูกสาวของผมซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.3 ในโรงเรียนเดียวกัน ทำให้ลูกสาวรู้สึกกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน จนต้องย้ายโรงเรียน นอกจากนี้ ฝ่ายคู่กรณียังมีการส่งคนมาเจรจาเสนอเงิน 1 ล้านบาทเพื่อล้มคดี แต่ผมได้ปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวนดังกล่าว” นายรัชพลกล่าว

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า คดีนี้มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิด 2 ราย และได้มีการสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมีความบกพร่องอย่างร้ายแรงที่ไม่มีการแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาแล้ว และไม่มีการให้พยานเข้าชี้ตัวผู้ก่อเหตุในชั้นสอบสวน ตรงนี้เป็นการเปิดช่องให้กลุ่มผู้ต้องหาในการวิ่งเต้น และทำให้สำนวนคดีอ่อนในชั้นศาล อีกทั้งพนักงานสอบสวนยังไม่รับคดียิงรถที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุยิงนายธีรวัฒน์ซึ่งถือเป็นความผิดแยกต่างหากอีก 1 คดี เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า และทำให้เสียทรัพย์ โดยให้ ผบก.ภ.จว.ตรัง ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อพนักงานสอบสวนคดีนี้ และให้ทางจเรตำรวจตรวจสอบว่ามีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ สั่งการให้ตั้งชุดสืบสวนติดตามตับกุมตัว โดยให้รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง เป็นหัวหน้าชุด โดยให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 ราย ให้ได้ภายใน 15 วัน ขณะเดียวกัน ให้จัดกำลังคุ้มครองพยานและดูแลความปลอดภัยผู้เกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งให้รายงานความคืบหน้าทางคดีกับทางญาติผู้เสียชีวิตทุก 3 วัน




กำลังโหลดความคิดเห็น