ข่าวลึกปมลับ : ล็อก “พรเพชร” ปธ.วุฒิฯ “สภาล่าง”ต่อรองไม่จบ

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2562 ตอน ล็อก “พรเพชร” ปธ.วุฒิฯ “สภาล่าง”ต่อรองไม่จบ



ศึกชิงอำนาจการเมืองในฝ่ายบริหาร การตั้งรัฐบาลอาจต้องรอความชัดเจนอีกสักระยะ แต่สำหรับ ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฏร ไม่ต้องรอนาน สุดสัปดาห์นี้รู้ผล ใครเข้าวิน

เริ่มที่ วุฒิสภา หรือสภาสูง ที่จะมีการประชุมส. ว. 250  คนนัดแรก ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่  24  พ.ค.นี้ ที่หอประชุมบริษัททีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ หลังจากเสร็จรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ที่กระทรวงการต่างประเทศ

โดยการประชุมสภาสูงครั้งนี้ ส. ว.ชุดแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีวาระสำคัญก็คือการเลือกประธานวุฒิสภา กับรองประธานวุฒิสภาอีกสองคน

ตามข่าวว่า มีรายการวิ่งเต้นล็อบบี้ฝุ่นตลบในกลุ่มสว.250  คนกันเล็กน้อย ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมีคนประสงค์จะลงชิงเก้าอี้ “รองประธานวุฒิสภา”สองตำแหน่ง ที่ฝ่ายคสช. ปล่อยฟรี ไม่มีส่งสัญญาณล็อกเก้าอี้ให้ใครเป็นพิเศษ

มีรายการคุณขอมาขอแค่ตำแหน่งเดียว คือ “ประธานวุฒิสภา” ที่ฝ่ายกุมอำนาจรัฐเวลานี้ ต้องการให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานสภาสูง เพื่อจะได้ช่วยงานด้านนิติบัญญัติต่อไป

นายพรเพชรเป็นมือกฎหมาย อยู่หลังฉากให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตั้งแต่วันแรกๆ หลังจากทำรัฐประหารเมื่อห้าปีที่แล้ว ดังนั้นพรเพชรจะได้ไปต่ออีกห้าปี เนื่องจากทำงานเข้าขา เป็นที่วางใจ

บิ๊กตู่เลยต้องการให้ พรเพชร สานต่อเป็นประธานวุฒิสภา คุมหางเสือสภาสูงในช่วงที่ บิ๊กตู่ เข้าสู่การเมืองเต็มตัว เพื่อที่ การทำงานระหว่าง รัฐบาล-สภาผู้แทนราษฏร ในยุครัฐบาลพลังประชารัฐกับวุฒิสภา  จะได้ราบรื่นไม่ติดขัด

ส่วนรองประธานวุฒิสภาอีกสองเก้าอี้ ที่ปล่อยฟรี ให้ส. ว.ทั้งหมด คุยกันเอง คนไหนประสงค์จะชิงเก้าอี้ ก็แสดงตัวออกมา แล้วไปหาเสียงกับส. ว.ด้วยกันเอง เลยส่งผลให้มีส. ว. หลายคนแสดงออกว่าอยากเป็นรองประธานวุฒิฯ

มีความเคลื่อนไหวจาก นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. ยังเช็คกระแสตัวเอง จะขอกลับมาเป็นรองประธานสภาสูงอีก ว่าจะมีเสียงหนุนแค่ไหน ผลปรากฎว่าเสียงสนับสนุนไม่ถึงกับวางใจได้ และยังมี ส. ว.บิ๊กเนมหลายคนก็สนใจเป็นรองประธานวุฒิฯ เช่น

พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ อดีตสนช. เพื่อนร่วมรุ่น พลเอกประยุทธ์ -พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร อดีตสนช. อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม- พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีตสนช.เพื่อนสนิทเตรียมทหารกับพลเอกประยุทธ์เช่นกัน รวมถึง นายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานกกต. ที่มาจากสายสมัครเป็นส. ว.สายวิชาชีพต่างๆ

รวมถึงอดีตรัฐมนตรีที่เพิ่งลาออก ถูกวางตัวเอาไว้ จะให้มาเป็นรองประธานสภาสูง โดยเป็นชื่อที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นก็คือ  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง อดีตรองนายกฯ อดีตผบ.ทอ. อดีตรองหัวหน้าคสช.ที่ร่วมทำรัฐประหารกับบิ๊กตู่เมื่อห้าปีที่แล้ว

แต่พล. อ. อ. ประจิน จะต้องเบียดกับพลเอก สิงห์ศึก ที่จะเป็นรองประธานคนที่หนึ่ง ข่าววงใจให้น้ำหนักพลเอกสิงห์ศึก มากกว่า เพราะมีประสบการณ์งานในฝ่ายนิติบัญญัติมาร่วมห้าปี จึงน่าจะมีโอกาสสูงกว่า

ส่วนเก้าอี้รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง น่าจะเป็นนายศุภชัย สมเจริญ ในฐานะมาจากสาย ส. ว.ที่มาจากการรับสมัครสรรหา อีกทั้งเป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา รุ่นราวคราวเดียวกับ นายพรเพชร

ขณะที่เก้าอี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นประธานรัฐสภา โดยตำแหน่ง จะเป็นใคร ชื่อยังไม่นิ่ง สอดรับกับการตั้งรัฐบาลที่ยังอึมครึม ความคืบหน้าเรื่องนี้ติดตามได้จากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่าน

ข่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการรัฐบาล เรียกสุชาติ ตันเจริญ เต็งหนึ่งประธานสภาจากพรรคพลังประชารัฐ ไปคุยเป็นการส่วนตัว โดยมีการให้คำยืนยันว่า ได้เป็นประธานสภาฯแน่นอน

ส่วนวิรัช รัตนเศรษฐ์ ที่เป็นคู่ชิง ประธานสภาฯ กับสุขาติ จะได้รัฐมนตรีช่วยหนึ่งเก้าอี้ ซึ่งวิรัช น่าจะดันลูกชาย มาเป็นรัฐมนตรีฯ ซึ่งเป็นสูตรที่ สุชาติกับวิรัช วิน-วิน ทั้งคู่

แต่ในสถานการณ์ต่อมา ก็มีกระแสข่าวพลิกไปพลิกมา อีกตลบ เพราะว่า เก้าอี้ประธานสภาฯล่างมีการต่อรองจากฝ่ายประชาธิปัตย์ ที่ยังยึกยัก ไม่ยอมแถลงร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐเสียที เนื่องจากต้องการขอเก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นของประชาธิปัตย์

โดยปชป. จะดัน ผู้อาวุโส อาจารย์ใหญ่ของ จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างบัญญติ บรรทัดฐาน ที่อยู่ในสภามาหลายสิบปี  ได้เป็นประธานสภาฯ แต่คีย์แมนพลังประชารัฐ ยังไม่ยอมตกลง และนายบัญญัติก็ออกมาปฏิเสธชัดเจน ไม่รับตำแหน่ง

ข่าวก็เลยปูดออกมาว่าปชป. จะให้ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายชวน หลีกภัย ผู้มากบารมีมานั่งเป็นประมุขนิติบัญญัติ

แต่ฝ่ายพลังประชารัฐที่เป็นพรรคแกนนำ ยังยืนว่าประมุขฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นคนคุมเกมในสภาฯ ต้องเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ

ด้วยเหตุนี้ทำให้ การต่อรอง ระหว่างประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ ดึงกันไปดึงกันมา แต่สุดสัปดาห์นี้จะต้องจบ