รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2562 ตอน ศึกชิงประมุขรัฐสภา 25 พ.ค.ชี้ชะตา “บิ๊กตู่”
การเมืองกำลังขับเคี่ยวกันดุเดือดเข้มข้น และเป็นโค้งสุดท้ายในการต่อรองระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะจับขั้วกันเดินหน้าเป็นรัฐบาลต่อไป ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีสองขั้วอย่างเดิม ปรากฎมีขั้วที่.3 ผุดสอดแทรกขึ้นมาเกิดแรงเพื่อมขึ้นไม่น้อยเหมือนกัน
ทำให้อะไรที่ว่า แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เบิ้ลนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ก็อาจมีรายการพลิกล็อคถล่มทลายได้
เมื่อจู่ๆ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศตัวขอเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง จากก่อนหน้านี้ย้ำชัดว่าต้องให้เกียรติพรรคอันดับ 1 อย่างพรรคเพื่อไทย และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เท่านั้น
แต่ธราธร ออกมาเล่นเกมใหม่ ดับฝันพรรคเพื่อไทย ที่รวมเสียงได้ไม่ถึงครึ่งสักที ฉีกสันยาบัน 7 พรรคการเมืองที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย อย่างไม่แยแสกับกติกาและมารยาท แต่ก็พอเข้าใจได้กับการเปิดเกมนี้เพราะวงเก่าก็ไม่มีสัญญาณอะไรที่เป็นบวกเข้า ยิ่งนานยิ่งเลือนลาง สู้แตกทัพลุยเองยังมีหวัง
การเดินหมากนี้ก็พอเข้าใจได้ว่า อาจจะเป็นแผนรับมือกับเหตุที่เกิดจึ้นกับตัวธราธร ด้วยที่เขาเจอมรสุมการเมืองกระหน่ำใส่รอบด้านอย่างหนัก จึงเป็นได้ว่า การสร้างภาพ ยกระดับตัวเอง เป็นแกนนำชิงตั้งรัฐบาลกับขั้วพลังประชารัฐ ที่มีบิ๊กตู่ พลเอก ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าใหญ่อยู่ข้างหลัง น่าจะมีประโยชน์ในการต่อสู้ทางคดีของเขาได้บ้าง
โดยเฉพาะเรื่องหุ้นสิ่อ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธร กรณีถือหุ้นสื่อ อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6 )ประกอบมาตรา 98 (3)
คดีนี้จะเปิดศาลพิจารณาในวันที่ 23 พฤษภาคม นี้
ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ก็อาจเป็นไปได้ว่า จะมีคำสั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกกว่าการวินิจฉัยจะแล้วเสร็จ ส่งผลให้ธนาธรอาจจะไม่ได้เข้าสภาฯ
อย่างไรก็ตาม เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน ก็จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏรนัดแรกในวันเสาร์ที่ 25 พ.ค. เพื่อเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติคือ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งก็คือประธานรัฐสภา โดยตำแหน่ง รวมถึงเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฏร อีกสองคน
แต่ทว่าถึงเวลานี้ การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ยังคงไม่ลงตัว เหตุเพราะสองพรรคตัวแปร คือประชาธิปัตย์ 52 เสียงและภูมิใจไทยอีก 51 เสียง ที่พลังประชารัฐ จะต้องดึงสองพรรคนี้มาร่วมตั้งรัฐบาลให้ได้
ไม่เช่นนั้น แม้ต่อให้ ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็นนายกฯรอบสอง ด้วยเสียงสมาชิกวุฒิสภา 250เสียง ที่พร้อมกดปุ่มออกเสียง ร่วมกับส.ส.อีก 126เสียง เพื่อหนุนบิ๊กตู่ให้กลับมาเป็นนายกฯรอบสอง จะได้เป็นผลงานแรกของการตอบแทนทางการเมือง ที่ดันให้ได้เป็นส. ว.
ถ้าหากพลังประชารัฐและบิ๊กตู่ ไม่ได้เสียงส.ส.จากประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย การจัดตั้งรัฐบาลให้มีเสียงส.ส.เกิน 250 เสียง ก็ไม่สามารถทำได้
ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองสูงเช่นนี้ จึงทำให้ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ยังออกลูกกั๊ก เล่นบท ต่อรอง ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตามที่ต้องการ ถึงค่อยปิดดีลตั้งรัฐบาลร่วมกัน
ก็อยู่ที่แกนนำพลังประชารัฐและบิ๊กคสช. แล้วว่า จะแก้เกมอย่างไร ไม่ให้ถูก ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ขี่คอแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ดังนั้น การตั้งรัฐบาลของพลังประชารัฐ จึงต้องติดตามกันแบบไม่กระพริบตา ที่ดูแล้ว การต่อรองดังกล่าว คงยืดเยื้อ อีกหลายยก
แต่มีความเป็นไปได้ ที่การเจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลของพลังประชารัฐ กับภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ทุกอย่างน่าจะจบก่อนเก้าโมงเช้า วันเสาร์ที่ 25พ.ค. ที่จะมีการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏร
ที่ต้องรู้แล้วว่า สุดท้าย เสียงส.ส. ฝ่ายพลังประชารัฐ จะมีกี่เสียง และมากพอที่จะทำให้ คนที่ฝ่ายขั้วพลังประชารัฐ สนับสนุนให้เป็นประธานสภาฯ จะเอาชนะคนจากฝ่ายขั้วเพื่อไทย ในการโหวตเลือกประธานสภาฯ ได้หรือไม่
โดยหากคนที่ฝ่ายขั้วพลังประชารัฐ เสนอชื่อแข่งเป็นแคนดิเดท ประธานสภาฯ หาก ชนะ คนจากฝั่งเพื่อไทย นั่นก็หมายถึง ดีลการตั้งรัฐบาล รวมเสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของขั้วพลังประชารัฐ จบแล้ว
ที่เหลือก็แค่ เจรจาต่อรองเรื่องโควต้า ตำแหน่งรัฐมนตรีกันในพรรคร่วมรัฐบาล
ดังนั้น ศึกชิงเก้าอี้ ประมุขนิติบัญญัติ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ในวันเสาร์ที่25 พ.ค. จึงเป็นคำตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนไปถึงวันโหวตเลือกนายกฯ ว่า ส.ส.ฝ่ายขั้วพลังประชารัฐมีกี่เสียงกันแน่ และประชาธิปัตย์ กับ ภูมิใจไทย จะมาร่วมลงเรือลำเดียวกับพลังประชารัฐหรือไม่
รวมทั้งสุดท้าย มีงูเห่าจากพรรคการเมืองที่เคยไปแถลงข่าวร่วมตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย มาอยู่ด้วยหรือไม่ หรือว่าจะเห็น ส.ส.จากพรรคอื่นๆ เช่น พรรคเศรษฐกิจใหม่ของมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จะมาร่วมชายคาเดียวกับพลังประชารัฐ หรือจะอยู่กับมิ่งขวัญ รอเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน
ทุกอย่างจะได้เห็นภาพชัดเจนในวันเสาร์นี้ ตอนโหวตเลือกประธานสภาฯ