xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.ย้ำ กม.ไม่อนุญาตผสมกัญชาในอาหาร-เครื่องสำอาง ใครครอบครองถือว่าผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online -เลขาธิการป.ป.ส. เตือนการนำกัญชาไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร หรือเวชสำอางไม่สามารถทำได้ และครอบครองส่วนผสมของกัญชาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ถือว่าผิดกฏหมาย

วันนี้ (1 พ.ค.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากกัญชาออกมามากและหลากหลายรูปแบบ ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 นั้นเป็นการผ่อนปรนให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในทางอื่นได้ ดังนั้น การนำกัญชาไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร หรือเวชสำอางไม่สามารถทำได้ และไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า หรือมีไว้ในครอบครอง รวมทั้งใช้ประกอบอาหาร หรือเวชสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชาล้วนถือเป็นความผิดตามกฎหมาย สำหรับอาหารหรือเวชสำอางที่พบว่ามีส่วนผสมของกัญชา เช่น ลูกอม คุกกี้ ช็อกโกแลต บุหรี่ น้ำยาหรือครีมบำรุงผม บำรุงผิว เป็นต้น ส่วนใหญ่จะผลิตจากต่างประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ ซึ่งสังเกตดูได้จากบรรจุภัณฑ์หรือสลาก จะมีข้อความระบุส่วนผสมว่ามี สาร THC หรือ CBD ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชา

“สำหรับประเทศไทยกัญชายังเป็นยาเสพติด และมีการปรับกฎหมายเพื่อผ่อนปรนให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น เพราะกัญชามีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่เป็นโทษ ดังนั้น การผลิต นำเข้า ครอบครอง หรือใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด หากไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีความผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. 1386 กด 3 และ สายด่วน อย. 1556 กด 3 ในวันและเวลาราชการ” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น