xs
xsm
sm
md
lg

จำเลยที่ 2 เสียชีวิต ศาลเลื่อนอ่านฎีกาคดี “หญิงเป็ด-จารุวรรณ” เบิกจ่ายจัดสัมมนาพ่วงงานกฐินปี 46 ผิดระเบียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลเลื่อนอ่านฎีกาครั้งที่ 2 “หญิงเป็ด-จารุวรรณ” อดีตผู้ว่าฯ สตง.เบิกจ่ายจัดสัมมนาพ่วงงานกฐินปี 46 ผิดระเบียบ เหตุอดีต ผอ.ทรัพายากรบุคคล จำเลยที่ 2 เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ต้องส่งสำนวนกลับศาลฎีกาเพื่อแก้ไขก่อนนัดฟังคำพิพากษาต่อไป

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 2054/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อายุ 73 ปี อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และนายคัมภีร์ สมใจ อายุ 73 ปี อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล สตง. ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่จัดให้มีการสัมมนาที่ จ.น่าน วันที่ 31 ต.ค. 2546 ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่จัดสัมมนาเพื่อให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนานั้นได้ไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่จัดขึ้นในวันเดียวกันแล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงบเดียวกัน 294,440 บาท ทำให้ สตง.เสียหาย ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดคุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2558 ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 157 ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ จากนั้นคุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ ได้ยื่นสมุดบัญชีเงินฝากคนละ 200,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

ขณะที่คดีได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2560 เห็นว่าพฤติการณ์บ่งชี้ตรงกันว่า การจัดและอนุมัติโครงการสัมมนากระทำไปเพื่อให้ข้าราชการ สตง.ไปร่วมการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน และการทอดผ้ากฐินสามัคคีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง แต่เบิกจ่ายงบประมาณ สตง.ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมของส่วนราชการ พ.ศ. 2545 โดยไม่มีการสัมมนาที่แท้จริง เป็นการเบิกจ่ายโดยไม่มีสิทธิทำให้ สตง.เสียหาย โดยจำเลยทั้งสองร่วมรู้เห็นตั้งแต่ต้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ตาม ม.157 ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ส่วนที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่า ควรลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ เห็นว่าจำเลยทั้งสองรับราชการที่ สตง.มางานจนดำรงตำแหน่งระดับสูงนับว่าได้ทำคุณประโยชน์ให้กับราชการ ประกอบกับจำเลยทั้งสองมีอายุมากประมาณ 70 ปี มีเหตุควรปรานี ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 2 ปี จึงหนักเกินไป สมควรแก้ไขให้เหมาะสม จึงพิพากษาแก้โทษจำคุกเหลือ 1 ปีโดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน ขณะที่ระหว่างฎีกา คุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ อดีต ผอ.สำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล สตง.ได้ประกันตัวคนละ 200,000 บาท

ก่อนหน้านี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกาครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2562 แต่ได้เลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากบุตรชายของนายคัมภีร์ ยื่นคำร้องแถลงว่าจำเลยมีอาการภาวะหัวใจล้มเหลว พร้อมนำใบรับรองแพทย์จาก รพ.รามคำแหง และ รพ.พระมงกุฎเกล้า มาแสดงต่อศาลว่าจำเลยที่ 2 จะต้องรอผ่าตัดจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 เดือน ศาลให้เลื่อนมาอ่านคำพิพากษา

โดยวันนี้ คุณหญิงจารุวรรณ จำเลยที่ 1 มาศาล มีครอบครัว กลุ่มญาติมาให้กำลังใจร่วมลุ้นผลคำพิพากษาด้วย ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ก็มาร่วมติดตามฟังคำพิพากษาด้วยเช่นกัน ส่วนนายคัมภีร์ อดีต ผอ.สำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล สตง. จำเลยที่ 2 ไม่มาศาล มีบุตรชายและทนายความมาแทน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทนายความจำเลยที่ 2 แถลง นายคัมภีร์ จำเลยที่ 2 ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 พร้อมยื่นใบมรณบัตร โดยศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้าน จึงเห็นควรให้ส่งสำนวนกลับไปยังศาลฎีกาเพื่อให้พิจารณาต่อไป วันนี้จึงยังไม่อาจอ่านคำพิพากษาฎีกาได้ ให้เลื่อนการฟังคำพิพากษาคดีออกไปก่อน และจะส่งสำนวนคำพิพากษากลับไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาแก้ไขและนัดฟังคำพิพากษาต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น