ลูกหนี้ร้องสื่อถูกนายทุนเงินกู้หัวหมอ ฮุบที่ดินแถมแจ้งความให้ ตร.ลากคอ

เจ้าของโครงการบ้านจัดสรร จ.ประจวบคีรีขันธ์ วอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงหวั่นคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังไปกู้ยืมเงินจากนายทุนคนดังมีอิทธิพลในพื้นที่รวมกว่า 24 ล้านบาท โดยเอาที่ดินและบ้านไปจำนองแบบโอนรับสภาพหนี้ไว้ พร้อมเช็คเงินสดอีก 6 แสนบาท แต่เจ้าหนี้กลับแจ้งให้ตำรวจมาจับข้อหาฉ้อโกง พ.ร.บ.เช็คธนาคาร

วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศิริวรรณ โลเนน นายชัยพิทักษ์ เหล่าธนพนธ์ และนายธนกิจ คนโท นำชาวบ้านจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมตัวเดินทางมาร้องเรียนกับ สมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพประเทศไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนประเทศไทย กรณีถูก นายประเสริฐ พิมพาพร นายทุนเงินกู้ เอาเปรียบยึดที่ดินแถมแจ้งความจับลูกหนี้ดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

นางศิริวรรณ เล่าว่า ตนเองจัดสร้างโครงการบ้านจัดสรรในปี 2559 เป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์ อยู่ที่ถนนสายท่าเรือ-วัดห้วยมงคล ใกล้กับสนามกอล์ฟมาเจสติก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่พอทำไปได้สักระยะการเงินเริ่มสะดุด ประมาณเดือน ก.ค. 2559 จึงได้ติดต่อขอกู้เงินจากนายประเสริฐ เจ้าของบริษัทนำเข้ายางรถยนต์ยี่ห้อดัง และเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ในหลายจังหวัด โดยตนเองขอกู้ครั้งแรก 12 ล้านบาท โดยนำเอาที่ดินและบ้านไปจำนองแบบโอนรับสภาพหนี้ ตนเองต้องจ่ายค่าโอนเองและได้เงินมา จำนวน 10,560,000 บาท เพราะถูกหักค่าดำเนินการยิบย่อยต่างๆ และหักดอกเบี้ย 2% ล่วงหน้า ต่อมาเดือน ก.ย.ปีเดียวกันได้กู้มาอีก 4,400,000 บาท ได้รับเงินจริง 4,000,000 บาท อีกรอบขอกู้ 660,000 บาท ได้รับเงินจริง 564,000 บาท และครั้งสุดท้ายขอกู้ 256,000 บาท ได้เงินมา 240,000 บาท ทั้งหมดรวมยอดเงินกู้ 19,490,000 บาท แต่ได้รับเงินจริง 17,524,000 บาท การกู้นั้นนอกจากที่ดินแล้วตนเองต้องวางเช็คเงินสด จำนวน 600,000 บาทด้วย

ก่อนหน้านี้ ได้จ่ายเงินคืนไป 4 งวด รวมเป็นเงิน 600,000 บาท และจ่ายค่าโอนอาคารอีก 1,600,000 บาท รวม 2,200,000 บาท ในขณะเดียวกัน โครงการบ้านจัดสรรของตนเอง ก็มีลูกค้ามาจองอยู่หลายหลังและพร้อมโอนให้ลูกค้าอีกหนึ่งหลัง จึงไปคุยกับ นายประเสริฐ ว่า ขอให้ทำหนังสือจัดซื้อเพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อบ้านนำไปขอกู้ธนาคาร เพื่อจะได้ปิดการขายและนำเงินมาใช้หนี้ในบางส่วน นายประเสริฐ ตกปากรับคำและเงียบไป ทำให้ตนถูกลูกค้าที่วางเงินมัดจำแล้ว ไม่สามารถขอกู้ธนาคารได้ต่อว่าและขู่จะฟ้องร้อง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตนเองที่บ้าน เนื่องจาก นายประเสริฐ ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง พ.ร.บ.เช็คธนาคาร ที่ตนเองวางไว้ 600,000 บาท รู้สึกแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไปประกันตัวที่ สภ.ปราณบุรี และสู้คดีในชั้นศาล ครั้งแรกศาลนัดไกล่เกลี่ย นายประเสริฐ เดินทางมาพร้อมทนายความ แต่ไม่ขอเจรจาใดๆ ต่อมานัดไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2 นายประเสริฐ ยอมให้ไถ่ถอนที่ดินโครงการในราคา 15 ล้าน และเอาบ้านพร้อมที่ดินตีราคาได้ 11 ล้านกว่าบาทค้ำไว้แทน เพราะราคาใกล้เคียงเงินที่กู้มา ก่อนจะนัดไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 นายประเสริฐ ไม่ยอมเจรจาจนศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 23 เม.ย. 2562

ด้าน นายชัยพิทักษ์ เล่าว่า ได้ทำโครงการบ้านจัดสรรชัยพิทักษ์แถวปากน้ำปราณบุรี แต่ขาดสภาพคล่องจึงได้กู้เงิน นายประเสริฐ จำนวน 16 ล้านบาท ให้เอาที่ดินโอนแบบรับสภาพหนี้เหมือนกัน และวางเช็คจำนวนเงิน 5,000,000 บาท ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามจับกุมตัว และเป็นคดีไกล่เกลี่ยกับ นายประเสริฐ อยู่ในชั้นศาลเบื้องต้น นายประเสริฐ ได้รับปากคำร้องจะนำไปพิจารณา

“วอนสมาคมผู้สื่อข่าวทั้ง 3 แห่ง ช่วยเหลือเป็นกระบอกเสียงให้ความเป็นธรรมแก่พวกตน เพื่อให้ระบบดำเนินการในราชการมีความยุติธรรม เพราะ นายประเสริฐ เป็นคนมีเงินและมีอิทธิพล พวกตนกลัวถูกทำร้ายจึงมาร้องให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ” ทั้งสองกล่าว

ขณะที่ นายชยันต์พิสิฐ สมานสวน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมฯ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเองได้ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วพบว่ามีมูลเหตุตามจริง จะพยายามทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว เพื่อให้ผู้มาร้องเรียนได้รับความเป็นธรรม