xs
xsm
sm
md
lg

ฎีกาเลื่อนอ่าน “ตู่” ฟ้อง “แจ๊ค” หมิ่นฯอมเงินเสื้อแดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - ศาลเลื่อนอ่านฎีกา “จตุพร” ฟ้อง “วัชระ” ขณะที่จำเลยอื่นรวมทั้งบริษัท เอเอสทีวี ลงโฆษณาหมิ่นประมาท สั่งยกฟ้องไปก่อนหน้านี้ คดีอมเงินเสื้อแดง

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำที่ อ.3910/2553 ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตแนวร่วม นปช. และอดีตดารานักแสดงชื่อดัง, บริษัท นสพ.แนวหน้า จำกัด, นายโชคชัย สุมน, นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์, บริษัท เอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด, บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332

กรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2553 นายเมธี แถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่า นายจตุพรอมเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดเมืองพัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่า นายจตุพรโทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความซึ่งจำเลยที่ 1 กล่าวทำให้โจทก์เสียหายว่าอมเงินบริจาค การกระทำของจำเลยที่ 1 ในส่วนนี้จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษาว่า ให้จำคุกนายเมธี 2 ปี และปรับ 100,000 บาท คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666 บาท ขณะที่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-7 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอว่าได้ร่วมกันกระทำผิดกับจำเลยที่ 1

ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ม.ย. 59
เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิด แต่ก็มีเหตุอันควรปรานี เมื่อไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยที่ 1 ได้กลับตัว การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษของศาลชั้นต้นโดยรอการลงโทษจึงเหมาะสมแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงปรากฏตามทางนำสืบว่า นายวัชระ จำเลย ที่ 4 ได้คัดลอกคำให้สัมภาษณ์ของนายเมธี จำเลยที่ 1 มาใส่ในบทความโดยมีข้อความที่นายเมธีกล่าวหมิ่นประมาทโจทก์รวมอยู่ด้วยโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่นอนเสียก่อน และมิได้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ มิใช่การติชมด้วยความเป็นธรรมโดยสุจริต จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และ 4 มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญามาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 1 แสนบาท คำเบิกความเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 66,666 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยที่ 1 และ 4 ร่วมกันลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ เป็นเวลา 3 วัน ส่วนจำเลยที่ 2, 3, 6 และ 7 ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น

คดีนี้มีจำเลยที่ 4 นายวัชระยื่นฎีกาสู้คดี เพียงคนเดียว และส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาศาล

โดยในวันนี้ ทนายความของนายวัชระ จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ติดหาเสียงช่วยพรรค ซึ่งฝ่ายโจทก์ไม่คัดค้าน ศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนการฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ค.นี้

สำหรับคดีนี้ มีรายงานว่า ทางนายจตุพร พรหมพันธุ์ โจทก์ และนายวัฒน์ เพชรทอง จำเลย มีการประสงค์ที่จะพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยเเละยื่นขอถอนฟ้องคดีเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น