xs
xsm
sm
md
lg

บุกเดี่ยวชิงทอง 215 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้าน ในห้างดังกลางกรุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทอง 215 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้าน ในห้างบิ๊กซี พระราม 4 ก่อนหลบหนี ผบ.ตร.สั่งตำรวจเร่งไล่ล่ามาให้ได้โดยเร็ว

วันนี้ (7 มี.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 ราย ใช้อาวุธปืนลูกโม่เข้าไปข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 215 บาท เหตุเกิดภายในห้างทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนพระราม 4 ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ทองหล่อ ว่า ในวันนี้ (7 มี.ค.) เวลาประมาณ 15.40 น. ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนพระราม 4 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อไหมพรมถักสีขาวคาดม่วง ใส่วิกผมยาวพร้อมใส่ถุงมือ ได้เดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าร้านทอง ที่เกิดเหตุอยู่หลายรอบ และเมื่อปลอดคนจึงได้เข้าไปในร้าน และเอาอาวุธปืนลูกโม่ (รีวอลเวอร์) เล็งไปยังพนักงานร้าน และโยนถุงพลาสติกสีขาวให้พนักงานของร้าน และสั่งให้พนักงานกวาดเอาสร้อยคอทองคำที่อยู่บนแผงเก็บทองในร้านใส่ในถุง ซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 215 บาท คิดเป็นเงิน 3,181,600 บาท จนคนร้ายพอใจ แล้วพูดกับพนักงาน ว่า “อย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวมีระเบิดพนักงานเกิดความกลัว” และสั่งให้ส่งถุงที่ใส่ทองให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไปออกทางหน้าห้าง ด้านถนนพระราม 4


พนักงานสอบสวนชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงพื้นที่ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ สอบสวนปากคำพยาน ฝ่ายสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนี และออกติดตามตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยาน และผลการตรวจที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะดำเนินการพิสูจน์ทราบคนร้ายที่ก่อเหตุและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป อีกทั้งฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และระดมกำลังออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมกำชับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม โดยการเพิ่มความเข้มงวด วงรอบความถี่ในการออกตรวจ ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด การตรวจค้นยานพาหนะทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย โดยเน้นการตรวจค้น จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะ ธนาคาร ร้านทอง และห้างสะดวกซื้อ




กำลังโหลดความคิดเห็น