xs
xsm
sm
md
lg

เปิดยุทธการกวาดลานวัด รวบอดีต ตร.รถไฟ หนีคดีรีดไถผู้โดยสาร มาบวชเป็นพระที่สระบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - กองปราบปรามจับกุม พระชาญ หรืออดีต จ.ส.ต.ชาญ สังกัด บก.รฟ. หนีคดีรีดไถผู้โดยสารมาบวชวัดสระบุรี ถือเป็นยุทธการกวาดลานวัดที่จะกวาดล้างผู้ต้องหาหลบหนีคดีมาบวชทั่วประเทศ



วันนี้ (27 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม พระชาญ สุชาโณ มีผลกิจ หรือ จ.ส.ต.ชาญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 1 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 295/2552 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานใช้ตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยจับกุมได้ที่วัดศรีอุทัย หมู่ 6 ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

พ.ต.อ.อรุณกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายโสพิศ เมฆจันทร์ ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่าเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2542 ขณะผู้เสียหายโดยสารรถไฟจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชเพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ ระหว่างที่นั่งอยู่มีผู้หญิงคนหนึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมานั่งใกล้ๆ เมื่อขบวนรถไฟวิ่งมาถึงสถานีทุ่งสง ได้มี จ.ส.ต.ชาญ ขณะนั้นรับราชการเป็นตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจรถไฟ (กก.2 บก.รฟ.) กับ ส.ต.อ.สุนทร สมาพันธ์ ขึ้นขบวนรถไฟมาปฏิบัติหน้าที่ และได้ทำการตรวจค้นตัวนายโสพิศเนื่องจากมีพิรุธ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

พ.ต.อ.อรุณกล่าวต่อว่า จากนั้น จ.ส.ต.ชาญได้ขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน แต่นายโสพิศไม่ได้นำติดตัวมา จ.ส.ต.ชาญ และ ส.ต.อ.สุนทร จึงได้นำตัวนายโสพิศและผู้หญิงที่นั่งใกล้กันไปที่ตู้เสบียงแล้วข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีข้อหานำคนต่างด้าวเข้าเมืองและไม่พกบัตรประชาชน จากนั้น จ.ส.ต.ชาญใช้มือตบหน้านายโสพิศ ก่อนนำตัวนายโสพิศ และหญิงคนดังกล่าวไปที่ตู้ทำงานแล้วพูดว่าถ้าอยากให้เรื่องจบ ให้นำเงินมาให้ 20,000 บาท แต่นายโสพิศบอกว่าไม่มีเงิน จ.ส.ต.ชาญจึงถือวิสาสะล้วงกระเป๋ากางเกงของนายโสพิศ นำเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ มีเงินจำนวน 6,600 บาท เงินประเทศลาว 1 ฉบับ ราคา 1,000 กีบ และสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น และหนัก 1 สลึงอีก 1 เส้น

พ.ต.อ.อรุณกล่าวอีกว่า ต่อมาตำรวจทั้งสองนายได้ยึดเอาเงิน 5,000 บาท และสร้อยคอทองคำ 2 สลึง 1 เส้น พร้อมด้วยเงินลาว 1,000 กีบไปแล้วให้ผู้เสียหายกลับไปนั่งที่เดิม พร้อมสั่งว่าหากผู้โดยสารอื่นถามก็ให้บอกว่ามีเรื่องทะเลาะกับภรรยาจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกไปว่ากล่าวตักเตือน ต่อมานายโสพิศเข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.จนกระทั่งมีการออกหมายจับไว้ หลังจากนั้นทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้มีคำสั่งที่ 114/2546 ไล่ จ.ส.ต.ชาญ ออกจากราชการแล้ว ฐานกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ

พ.ต.อ.อรุณกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวมาจากยุทธการกวาดลานวัดของ พล.ต.ต.จิรภพ ที่ให้เร่งกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีคดีมาบวชตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้พระพุทธศาสนามัวหมอง ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีมาบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดศรีอุทัย จ.สระบุรี จึงนำกำลังจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้น จ.ส.ต.ชาญให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดทุ่งสงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น