ชายวัย 59 ปี ขึ้นบ้านลูกพี่ลูกน้องกันยามวิกาล เจ้าของบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโจรมาขโมยของ ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด ผู้บุกรุกกลับวิ่งเข้าหา เลยถูกยิงสวนไปอีก 5 นัด เข้าอกทะลุหลัง 1 นัด กู้ชีพช่วยนำส่งโรงพยาบาล
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.อ.เชิดชัย ศรีประเสริฐ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บในบ้านเลขที่ 169 ซอยพระราม 2 ที่ 30 แยก 5 แขวงและเขตจอมทอง กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ กำลังฝ่ายสืบสวน ทีมแพทย์กู้ชีพ รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวนริมคลอง สูง 2 ชั้น ลักษณะเป็นบ้านเก่าครึ่งตึกครึ่งไม้ไม่มีรั้วรอบขอบชิด พบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางอยู่บนชั้นที่ 2 ของตัวบ้านซึ่งปิดไฟมืดสนิท ทราบชื่อต่อมาคือ นายสันติ หรือ “ติ” คะเนกิจ อายุ 59 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่กลางอกทะลุหลัง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำร่างส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ให้แพทย์รักษาเป็นการด่วน
สอบสวน นายพรเทพ หรือ “บอย” พฤกษวิบูลย์ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านซึ่งยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุน 6 นัด ให้การว่า ปัจจุบันตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าออนไลน์ ตนกับ นายสันติ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน โดย นายสันติ มีศักดิ์เป็นพี่เนื่องจากเป็นลูกของป้า บ้านหลังนี้มี 2 ชั้น แต่ชั้นบนไม่มีใครพักอาศัย เพราะหนูกัดสายไฟจนใช้การไม่ได้มานานแล้ว ก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่ที่ห้องพักด้านล่าง กับแม่ และป้า ซึ่งเป็นพี่สาวแม่อีกคน จากนั้นตนออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก สักพักได้ยินเสียงเหมือนคนร้ายเดินอยู่ชั้นบนจึงรีบหยิบอาวุธปืนที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเดินขึ้นไปดู
“ตนเห็นเงาคนอยู่ในห้องด้านบน คิดว่าเป็นโจรมาขโมยของแน่จึงยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ไป 1 นัด แต่แทนที่ผู้บุกรุก จะหยุดกลับวิ่งมาหา ตนจึงยิงสวนไปอีก 5 นัด กระทั่งเป้าหมายล้มลง เมื่อลองเข้าไปดูกลับพบว่าเหยื่อกระสุนเป็น นายสันติ ญาติตัวเอง ซึ่งปกติไม่ทำการทำงานอะไรและจะชอบเมาสุรามาขอเงินแม่กับป้าตนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเดินทางมาดึกดื่นขนาดนี้ เมื่อรู้ว่ายิงพี่ตัวเองจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเข้ามาให้การช่วยเหลือ” นายพรเทพ กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.เชิดชัย เปิดเผยว่า จะควบคุมตัว นายพรเทพ ไปดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นเอาไว้ก่อน ส่วนอาวุธปืนของกลางต้องส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะรอดูอาการของ นายสันติ ผู้ได้รับบาดเจ็บหากอาการดีขึ้นก็จะต้องเดินทางไปสอบสวนที่โรงพยาบาล ว่า ก่อนเกิดเหตุขึ้นไปชั้นบนบ้านยามวิกาลด้วยเหตุใดทั้งๆ ที่รู้ว่าชั้น 2ไม่มีผู้พักอาศัย แต่หาก นายสันติ เกิดเสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายพรเทพ ต่อไป
