“ทนายรณรงค์” พาพ่อค้าส้มตำ ให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ท. คดีตำรวจกองบังคับการสืบสวน 6 นายกรรโชกทรัพย์ เรียกรับเงิน 50,000 บาท ยันมีคนวิ่งเต้นขอให้ยอมความ หวั่นเป็นมวยล้มต้มคนดู
วันนี้ (22 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ท. อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ก ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าส้มตำ ปากซอยพระรามหก 22 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ที่ถูกตำรวจยัดยา จนเข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท จะเข้าให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการ
ป.ป.ท.ตามนัด เพื่อให้ ป.ป.ท.รวบรวมหลักฐาน
จากกรณีที่นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าส้มตำ ได้เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีต่อตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 6 นาย ร่วมกับพลเรือนกรรโชกทรัพย์ และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.
2561 ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและให้ตำรวจทั้ง 6 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน
นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าส้มตำกล่าวว่า คนที่พยายามมาวิ่งเต้นคดีได้เข้ามาพูดคุย ตนก็บอกไปว่าเรื่องคดีไม่ออกความคิดเห็น คนนั้นก็บอกว่าจะเอาตำรวจมากราบเท้าขอโทษได้ไหม ตนได้แต่ตอบไปว่าไม่ออกความคิดเห็น ตอบไม่ได้ คนที่มาคุยตนรู้จักผิวเผิน ไม่ได้สนิทกัน ส่วนว่าเขารู้จักกับตำรวจเหล่านั้นไหม ตนไม่ทราบ เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย หลังเกิดเหตุ และมีการแจ้งความเขาจะเอาเงินมาคืน ใจตนก็อยากจะจบยอมความ แต่เขาเอาคนมาขู่จะฆ่าทิ้ง ตนก็เลยไม่จบ เดินหน้าต่อ เหตุการณ์ขู่ฆ่าเกิดหลังจากที่มีข่าวออกไป ตอนนี้ที่ตนกลัวคือตำรวจเขาจะช่วยกัน อย่างอื่นไม่ได้กังวลอะไร อยากให้คดีคืบหน้าไปเร็วและจบ
นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ กล่าวว่า วันนี้นายศักดิ์ชัยเดินทางมาให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.อย่างเป็นทางการ โดยนัดในช่วงเช้าและบ่าย พร้อมทั้งนำพยานปากอื่นมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย ส่วนเรื่องพยานเป็นใครยังบอกไม่ได้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ถอนกำลังจากร้านส้มตำไป ไม่ได้มาเฝ้าที่ร้านส้มตำ ก็มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามายุ่งกับหลักฐาน พยายามมาวิ่งเต้นคดี วันนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ให้คดีเป็นเอกสารลับ แต่มีเลขรับคดีแล้ว มีการระบุชื่อแล้ว แต่เราไม่สามารถนำมาโชว์ได้ เรื่องหลักฐานตนบอกไม่ได้ วันนี้มีพยานมาสอบ 3 ปาก เอกสารมีสัญญาณที่ดี มีการเรียกผู้เสียหายมาให้ถ้อยคำเพื่อส่งต่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดี