ข่าวลึกปมลับ : ปู-วังบัวบาน ป่วน“นายหญิง” เปิดศึก..เด็ดปีก “สุดารัตน์”

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562 ตอน ปู-วังบัวบาน ป่วน“นายหญิง” เปิดศึก..เด็ดปีก “สุดารัตน์”



วันเลือกตั้งเริ่มมีความชัดเจนขึ้นมาบ้าง ว่าวันที่ 24 มีนาคม เป็นวันที่มีโอกาสเป็นวันเลือกตั้งมากกว่าวันอื่น ซึ่งภายในสัปดาห์นี้คงจะมีคำตอบออกมาอีกครั้ง เพราะขณะนี้ระหว่างรัฐบาลคสช. กับกกต.ได้ข้อสรุปลงตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวันเลือกตั้ง หรือเรื่องการรับรองผลส. ส. สามารถรอมชอมตกลงกันได้แล้ว

เพียงแต่รอการประกาศเดินหน้าอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ก็คงจะไม่ช้ากว่าสัปดาห์นี้ทุกอย่าง จะชัดเจน ยืนยันว่า เมืองไทยจะมีการเลือกตั้งแน่นอน

สำหรับสมรภูมิการเลือกตั้งครั้งนี้ หลายฝ่ายรอลุ้นด้วยใจระทึก เนื่องจากเป็นการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายรัฐบาลคสช. ที่แปลงร่างมาเป็นพรรคการเมือง ในนามพรรคพลังประชารัฐ

อาจจะเรียกได้ว่า การต่อสู้หนนี้ใหญ่หลวงนัก เป็นศึกช้างชนช้าง ที่ทั้งสองขั้วจะทุ่มกันสุดตัว เพราะเดิมพันครั้งนี้สูง ใครชนะได้ครอบครองอำนาจ ใครแพ้ก็ย่ำแย่โดนแช่แข็ง แทบจะจบชีวิตทางการเมืองไปเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตระกูลชินวัตร มีเดิมพันกับการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยชีวิต เพราะเป็นเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ฟื้นคืนอำนาจขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขาจะทำได้หรือไม่ ตรงนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจ

ต้องสนใจ เพราะหากพลาดพลั้งเสียท่าให้กับขั้วคสช. กลุ่มคสช. ก็จะเป็นใหญ่และตามขยี้ขั้วอำนาจทักษิณต่อไป กลุ่มทักษิณก็จะไร้ที่ยืนบนถนนอำนาจ และแตกสลายไป

ขณะนี้ตระกูลชินวัตรอยู่ในตกต่ำทางอำนาจมาก จัดว่าช่วงนี้อำนาจสั่นคลอนมากที่สุดตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร ลงเล่นการเมือง และได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี2544 จนกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางอำนาจในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว แต่พ. ศ. นี้เป็นยุคที่เสื่อมถอย จนยากจะกอบกู้

ทักษิณหนีคดีไปเข้าปึที่12แล้ว จนวันนี้มีความคิดถึงบ้านเกิด รุมเร้าอย่างหนัก กระสับกระส่าย กินไม่ได้นอนไม่หลับ มันฝันแต่อยากกลับบ้าน แต่หนทางที่จะได้กลับบ้านฟังไปคล้ายเปิดกว้าง แต่ในความเป็นจริงริบหรี่ลง จนประตูตีบตันแทบจะปิดตายในวันนี้

โอกาสของทักษิณ ถ้าหากไม่กลับมารับโทษ และมาต่อสู้คดีอื่นที่ค้างศาลอยู่ตามกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นทางเลือกสายเดียว ก็ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เพราะวิธีอื่นก็ล้วนมองไม่เห็นช่องทาง และตัวช่วยไม่เหลืออยู่แล้ว ที่มีอยู่ก็เป็นพวกปลุกปลอบหลอกเอาเงินทักษิณเท่านั้น

นอกจากหนทางกลับบ้านเกิดมีปัญหา ด้านการจะใช้ประเทศต่างๆเป็นที่เคลื่อนไหวก็ทำได้ยากขึ้นทุกที ดูสัญญาณจากกรณีล่าสุดที่บริษัทท่าเรือ ซัวเถาฯ สั่งปลดนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ที่หนีความผิดโดนศาลตัดสินจำคุก 5ปี พ้นจากประธานบริหารหลังได้ตำแหน่งเพียงเดือนเดียว

ย่อมเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า หนทางในกลยุทธ์ของทักษิณที่ใช้ “โลกล้อมไทย”ที่เคยสะดวก และเป็นผลดีมานั้น เริ่มติดขัดรัดตัวเข้ามาเช่นกัน มีสัญญาณบอกว่า วันนี้ไม่มีประเทศไหนเอาด้วยฝ่ายทักษิณเหมือนก่อน

เรื่องนี้คงจำกันได้ว่า ดูไบ เป็นที่แรกที่มีมาตรการห้ามทักษิณ ใช้ประเทศของเขาเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่อนุญาตให้อยู่อย่างผู้อาศัยได้เท่านั้น

ตอนนี้แทบทุกประเทศก็เริ่มเอาอย่างดูไบ ที่ไม่ยอมให้ทักษิณกับยิ่งลักษณ์ ใช้ประเทศของเขาเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง คงไม่ใช่แค่จีนไม่เล่นด้วย จากกรณีปลดยิ่งลักษณ์ ในเรื่องเดียวกัน กัมพูชาก็เอาด้วย

เขมรหรือกัมพูชาที่ถือว่าทักษิณมีสายสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งดูดดื่มกับ ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา แต่วันนี้ทางการกัมพูชาก็ออกมายืนห่างทักษิณแล้ว รู้ได้จากทางการเขมรแจ้งให้ชาวโลกว่า หนังสือเดินทางของยิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าออกให้โดยประเทศกัมพูชา เป็นของปลอม

ทุกข์ในใจทักษิณเป็นอย่างไร นักการเมืองในสายเพื่อไทยที่ไปพบปะเพื่อสะสมไมล์ ย่อมรู้กันดี แต่ยังมีคนที่อาการหนักไม่น้อยกว่า ก็คือ ยิ่งลักษณ์ ที่เริ่มมีปัญหากับโรคโฮมซิค อาการกำเริบหนักขึ้น ทุกวัน

หนีไปได้ปีเศษๆ ช่วงนี้ข่าวว่า ปู ยิ่งลักษณ์อยากกลับบ้านเต็มทน อยู่นิ่งไม่เป็นแล้ว ก็เลยปรากฎข่าวส่งเสียงตามสายมาหนุนหลังดันส่ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็น ว่าที่เบอร์1ในบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย

หักหน้า คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม่ทัพใหญ่เพื่อไทย ชนิดไม่มีความเกรงใจหลงเหลือกันแล้ว

แต่ภายหลังยิ่งลักษณ์ก็ปฏิเสธ ซึ่งคงไม่มีใครเชื่อ ใครก็รู้ว่าคนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้กับเจ้าแม่กทม. อย่างหญิงหน่อย ร่องรอยย่อมบอกว่า ต้องไม่ใช่มือระดับธรรมดา

เรื่องนี้ ลำพังชัชชาติ คงไม่คิดหาญกล้ายกตัวเองขึ้นมาทาบบารมีกับเจ้าแม่กทม.อย่างแน่นอน ต้องมีเบื้องหลังเบอร์ใหญ่ อย่างยิ่งลักษณ์และคนโตในสาย “วังบัวบาน”เดินแผนให้

ส่วนชัชชาติก็กล้ำกลืนฝืนทนไปถ้าได้ส้มหล่นก็ดีนับเป็นวาสนา และเป็นการค้าที่ไม่ต้องลงทุน!?

วันนี้ การเดิมเกมการเมืองของกลุ่มชินวัตร มีความขัดแย้งกันในทางยุทธศาสตร์ และขยายมาเป็นปมปัญหาปะทะกัน โดยเห็นได้จากปรากฎการณ์

“ชู ชัชชาติ-เด็ดปีก สุดารัตน์”

ที่เรื่องนี้ผู้มีบารมีในเพื่อไทย2สายคิดไม่เหมือนกัน และเดินแผนใต้ดินชิงอำนาจกันภายใน

สายหนึ่ง คือสายกทม. ที่มีศูนย์บัญชาการจากย่านฝั่งธนฯ มี “นายหญิง”เป็นคนกำหนดยุทธศาสตร์แนวทางการเมือง “ รอเวลา ให้เดินสายกลาง ไม่ใช้ความรุนแรง” จึงส่งสุดารัตน์มาคุมพรรคเพื่อไทย และ “นายหญิง”ยังเป็น “ท่อน้ำเลี้ยง”แต่เพียงคนเดียว

ส่วนอีกสายหนึ่งเป็น “สายวังบัวบาน” ที่ต้องการครอบครองพรรคเพื่อไทยต่อไป หลังจากแยกตัวไปเปิดพรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคอะไหล่เป็นฐานใหม่ไว้แล้ว

แต่ด้วยแค้นเก่าและทนเห็นสุดารัตน์เป็นใหญ่ในเพื่อไทยไม่ได้ จึงพยายามเดินเกมดับรัศมีของสุดารัตน์ โดยเอา ชัชชาติเป็นหมากขึ้นมาท้ารบ ทั้งที่ในทางการเมือง ชัชชาติโตแต่ตัว ยังเป็นนักการเมืองที่ชื่อชั้นห่างกับสุดารัตน์อย่างเทียบกันไม่ได้

แต่ปฏิบัติการเล่นงานสุดารัตน์ย่อมกระทบต่อ “นายหญิง”อย่างจังด้วย ศึกภายในกลุ่มการเมืองของทักษิณ ที่ส่อว่าจะเป็นไฟเผาผลาญทัพตัวเอง

ก็คงส่งผลให้เกมชิงอำนาจในสถานการณ์ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า เป็นปัญหาแน่!