“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับครูสอนภาษาชาวปากีสถาน ข่มขืนกระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ด้าน ตม. สั่งเพิกถอนวีซ่าห้ามเข้าประเทศถาวร
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 61 ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จับกุมตัว นายฟายัส อาร์หมัด ครูสอนภาษาชาวปากีสถาน ได้ที่ย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ฐานข่มขืนกระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี โดย พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา เพื่อสอบสวนเอง พร้อมสั่งสอบขยายผลเพิ่มหาเหยื่อรายอื่นหลังพบพฤติกรรมจิตวิทยาระดับสูง เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งเพิกถอนวีซ่าชายชาวปากีสถาน รายนี้แล้ว โดยห้ามเข้าประเทศถาวร และขอให้เหยื่อที่ถูกข่มขืนกระทำชำเราจากผู้ต้องหารายนี้เข้าให้ข้อมูล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางไป สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมสอบสวนปากคำนายฟายัส ผู้ต้องหาชาวปากีสถาน ซึ่งเป็นครูสอนภาษาและนักจิตวิทยาที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์ของตนเอง และพรากผู้เยาว์ ซึ่งเชื่อว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้จับกุมตามหมายจับ คดีอาญาศาลจังหวัดธัญบุรี ในเรื่องของการสอบสวนผู้ต้องหาในวันนี้ ซึ่งถามพนักงานสอบสวนก็ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว และที่ตนเองเดินทางมาในวันนี้ เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับผิดชอบของการเข้าออกเมือง รวมถึงเรื่องดูแลการขอใบอนุญาต และการเพิกถอนบังคับใช้วีซ่า และจะไม่ให้อยู่ในประเทศไทยต่อไป
กรณีลักษณะดังกล่าวนี้ ตนเองก็ฝากถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน เช่น มาสอนภาษาอังกฤษและมาข่มขืนหรือกระทำชำเรา ในส่วนของคดีนี้ผู้ต้องหารายอื่นๆ ไม่ต้องกังวลใจ รวมถึงส่วนผู้เสียหายอื่นไม่ต้องกลัว ดังนั้น บุคคลที่เข้ามาอาศัยความเป็นครูบาอาจารย์ หรือเข้ามาอาศัยเป็นครูสอนโรงเรียนศาสนา สอนภาษาอังกฤษต่างๆ คนดีๆ ก็มีเยอะแต่คนไม่ดีในลักษณะแบบนี้ ทางเราจะเพิกถอนวีซ่า และดำเนินคดีอาญา พร้อมทั้งผลักดันออกนอกประเทศทั้งหมด แล้วจะไม่ให้คนไม่ดีแบบนี้อยู่ในประเทศไทยต่อไป แล้วในส่วนของรายอื่นๆ ที่มีในลักษณะแบบนี้ก็ให้ทางผู้เสียหายติดต่อทางตำรวจท้องที่ที่รับผิดชอบอยู่โดยไม่ต้องกลัวใดๆ ทั้งสิ้น หรือไม่ก็เดินทางมาหาผมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้เราได้เอกซเรย์บุคคลประเภทนี้ทั้งหมด หรือบุคคลในลักษณะเช่นนี้เข้ามาแฝงอยู่ในประเทศไทย เราผลักดันออกนอกประเทศและถอนวีซ่าทั้งหมด
ส่วน นายฟายัส ผู้ต้องหารายนี้ ตนเองได้เข้ามาดูแลตั้งแต่แรก ก็เพราะว่านายฟายัสได้เข้ามาในรูปแบบของการดูแลครอบครัว และมาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 20 ปีแล้ว และได้สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่บ้าน โดยการสอนภาษาอังกฤษนั้น ต้องมีใบรับรองและมีความรู้จากสถาบันที่ถูกต้อง จากการตรวจสอบแล้วนายฟายัส เป็นเพียงแค่ครูสอนภาษาอังกฤษที่บ้าน และสอนภาษาอังกฤษโดยทั่วๆ ไป ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองของตัวเด็กเอง อาจจะไว้วางใจ บุคคลเช่นนี้เราจะไม่ให้อยู่ในประเทศไทย หลังจากการดำเนินคดีอาญาเสร็จสิ้น ซึ่งในการกระทำความผิดของนายฟายัสนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ และทางผู้ต้องหาได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว