รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561 ตอน คู่เวรฯ “สุเทพ-ธาริต” สู้กันยัน “ชาติหน้า”
วิบากกรรมของคู่เวร คู่กรรม ระหว่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย กับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นเรื่องที่โจษขานเป็นข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน
และเรื่องของคู่เวรคู่กรรมคู่นี้ ยังต้องติดตามกันต่อไปยาวๆ เพราะยังมีคดีความกันที่ต้องสู้กันอีกหลายเรื่อง
แม้เวลานี้ ธาริต จะต้องกลายเป็นนักโทษ ในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ จากผลคำตัดสินของศาลฎีกา ให้จำคุกธาริต หนึ่งปี ไม่รอลงอาญา เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ในคดีที่สุเทพ อดีตรองนายกรัมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เป็นจำเลย
ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยการโฆษณา กรณีให้สัมภาษณ์เรื่องคดีโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจทั่วประเทศ จำนวน396 แห่ง ซึ่งในชั้นสอบสวน พบเหตุผิดปกติ ส่อมีการทุจริตในการอนุมัติโครงการ
แต่คดีนี้ผ่านจากศาลอาญา ศาลอุทธรณ์ โดยผลคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ธาริตชนะคดีมาทั้งสองศาล เนื่องจากศาลเห็นว่า เป็นการทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ แต่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นการทำเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ ทำให้ธาริตมีความผิดตามฟ้อง
ก่อนหน้าที่ ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา เหมือนว่าธาริตเดาข้อสอบถูก จึงดิ้นอย่างหนัก ยื่นขอกลับคำให้การใหม่ จากปฏิเสธเป็นรับสารภาพตลอดข้อหา และแถลงข่าวขอขมาสุเทพต่อสาธารณะอย่างใหญ่โต พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อบรรเทาโทษ
เสมือนรู้แน่ๆว่า กรรมไล่ทันแล้ว คราวนี้ไม่รอดคุกแน่ จึงออกอาการทุรนทุรายถึงขนาดนั้น
ในการกระทำของธาริตทำให้สังคมสงสัย ที่จู่ๆคนชนะคดีมาสองศาลอย่างธาริต จะออกมากลับลำรับสารภาพผิดในชั้นศาลฎีกา
แต่การคาดเดาของธาริตก็แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อคำพิพากษาศาลฎีกากลับคำพิพากษาของชั้นต้นและอุทธรณ์ แบบพลิกล็อคถล่มทลาย
สังคมย่อมอยากรู้ว่า ธาริตเดาข้อสอบถูกเป๊ะโดยอาศัยสัญญาณบอกเหตุ มาจากอะไรบ้าง อย่างแรกก็คาดว่า เป็นคนในบอกข่าว แม้ว่าประเด็นนี้อาจเป็นไปได้แต่ก็ยาก
ส่วนประการที่สอง เพราะมีการนัดอ่านคำพิพากษาโดยงานนี้ศาลฎีกาขออ่านเอง ทำให้สงสัยได้ ว่าจะมีเหตุพลิกล็อคเกิดขึ้น คนที่ถูกฟ้องอย่างธาริตที่เป็นอดีตอัยการระดับสูงย่อมหวั่นไหว ในผลที่จะออกมากลับด้าน จากขวกเป็นลบ จากยกฟ้องเป็นลงโทษ
ตัองรู้ว่า ปกติคำพิพากษาศาลฎีกาจะส่งให้ศาลชั้นต้นอ่าน และเป็นฝ่ายนัดคู่ความมาฟัง ซึ่งมีขั้นตอนใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง แต่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเองก็มีแต่ไม่บ่อยนัก
คดีที่ศาลฎีกาอ่านเองมักจะเป็นคดีสำคัญ ที่สังคมให้ความสนใจ เวลาที่นัดคู่ความมาฟังก็จะหดสั้นกว่า จะแจ้งให้คู่ความรู้ล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือน
เท่ากับ คดีนี้ธาริตได้ศึกษาสถานการณ์ความเป็นไปของผลคดีประมาณหนึ่งเดือน และเป็นเวลาที่ได้เดินกลยุทธ์ทุกทางเพื่อแก้ไขจากร้ายเป็นดี แม้แต่เลียน้ำลายตัวเองที่ถ่มไว้ก็ย่อมทำ
แต่ธาริตทำหรือจะสู้ความยุติธรรมที่ลิขิตจากศาลฎีกา ธาริตจึงเดินคอตก น้ำตาคลอเบ้าเข้าตะราง ได้ไปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในคุกแล้วในเวลานี้
สำหรับธาริตหลังสิ้นวาสนา เฉียดคุกมาครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้แม้จะเคยถูกศาลฎีกาฯ วินิจฉัยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ว่า จงใจยื่นแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นเท็จ จึง พิพากษาลงโทษให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท
แต่ศาลเห็นว่า การที่ ธาริต ยอมรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 เดือน และให้รอการลงโทษ 2 ปี
ต้องย้ำกันอีกครั้ง ว่าธาริตกับสุเทพเป็นมวยถูกคู่คนดูถูกใจ การต่อสู้ทางคดีความระหว่างสุเทพ กับธาริต ยังมีเรื่องฟ้องร้องกันและคดียังคาในศาลอีกหลายเรื่อง
เข่น คดีที่ สุเทพ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ธาริต กับพวก ที่เป็นอดีตพนักงานสอบสวนคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี2553 ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา
ความคืบหน้าคดีนี้ ล่าสุด เมื่อ 25 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้ตัดสินยกฟ้อง ธาริต เพราะศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พยานฝ่ายนายอภิสิทธิ์และสุเทพ ที่นำสืบมามีน้ำหนักน้อย
เป็นเพียงพยานแวดล้อมและความเห็นทางกฎหมาย ไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะนำสืบให้เห็นว่านายธาริต จำเลยกับพวก จงใจกลั่นแกล้งโจทก์
แต่คดีนี้ยังไม่จบ เพราะทั้งอภิสิทธิ์และสุเทพ ก็ยังใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อไป และคงไม่จบง่ายๆ ต้องสู้กันถึงที่สุด พูดพรุ่งนี้เรามาคุยกันในรายละเอียดคดีนี้
และมาตรวจสอบชะตากรรมข้าราชการดาวเด่นบริวารระบอบทักษิณในอดีต มีใครบ้างที่กลายเป็นดาวดับ เหมือนกันธาริต เพ็งดิษฐ์ ในวันนี้