xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “บัตรเลือกตั้ง”อัปลักษณ์ ฉุดเลือก ส.ส.ติดภาพลบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 ตอน “บัตรเลือกตั้ง”อัปลักษณ์ ฉุดเลือก ส.ส.ติดภาพลบ



วันนี้11 ธันวาคม เป็นวันแรกของการเดินหน้าไปสู่การกลับเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง เพราะรัฐธรรมนูญ ปี2560 จะใช้บังคับอย่างสมบูรณ์ เมื่อกฎหมายเลือกตั้งส. ส. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้

กำหนดกาลวันเลือกตั้งรออยู่ข้างหน้า คือตามกติการะบุว่า ไม่เกิน150 วันหลังกฎหมายเลือกตั้งใช้แล้วต้องจัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฏร ซึ่งคสช. ได้ประกาศวันเลือกตั้งไว้แล้ว เป็นวันที่24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งคงจะไม่กล้าบิดพริ้วเป็นวันอื่นอีกแล้ว

ถือว่าปีใหม่นี้ การที่ประชาชนคนไทยได้เลือกตั้ง และได้อำนาจประชาธิปไตยคืนมา เป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุด หลังจากที่อึดอัดมานานถึงสี่ปีกว่า ที่คสช. ยึดอำนาจก็นั่งยาวมาตั้งแต่วันที่22 พฤษภาคม2557 นับเวลาแล้วก็ควรลงจากอำนาจแล้ว ขืนลากยาวต่อไปประเทศชาติบ้านเมืองเหี่ยวเฉาแน่

พูดอย่างเป็นธรรม คสช. มาบริหารประเทศ ก็มีทั้งดีและเสีย แม้ว่าคสช. จะไม่สามารถปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆได้อย่างที่ประชาชนคาดหวัง มิหนำซ้ำยังมีปัญหากับการแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้คนไทยอดอยากปากแห้ง หรือปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นก็ยังกินกันมูมมามในกลุ่มคนมีอำนาจ

แต่ส่วนที่ดีก็มี คือที่คสช. ใช้ความเด็ดขาดกวาดล้างกลุ่มการเมืองสายเถื่อนถ่อยทั้งหลาย จนหายซ่าและตัวแสบๆหายหน้าไปหลายคน ทำให้ประคองไม่ให้สังคมเสื่อมโทรมลง

เนื่องจากปัญหาที่ก่อนหน้านี้คนไทยทะเลาะกัน แตกความสามัคคี แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ใช้กำลังเข้ารบราฆ่ากัน นิยมใช้ความรุนแรงจัดการกับปัญหา เผาบ้านเผาเมืองจนใกล้เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน

และ คสช. ก็ได้ตัดวงจร เอาจริงกับการแก้ไขปัญหานี้ได้ดีเป็นที่น่าพอใจ จนคนไทยเปลี่ยนทัศนคติไปมากแล้ว. อันนี้เป็นข้อดีของคสช. ทำให้คสช. ไม่เป็นเผด็จการที่เข้ามาแล้วใช้อำนาจอย่างเห็นแก่ตัวแต่ด้านเดียว

สำหรับการเลือกตั้งในวันที่24 กุมภาพันธ์ ยังมีข่าวลือว่า อาจจะไปไม่ถึง เพราะมีเรื่องทำให้สะดุด ล้มการเลือกตั้ง เช่นข่าวลือว่า ฝ่ายคนมีอำนาจเห็นว่าเลือกตั้งไปก็วุ่นวาย หลังเลือกตั้งจัดรัฐบาลก็ยิ่งวุ่นวายอีก แล้วจะมีเลือกตั้งไปทำไม สู้ล้มกระดานดีกว่า

ข่าวนี้คงต้องฟังหูไว้หู อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นการวิเคราะห์ของคนสู่รู้มากกว่า หรืออาจเป็นข่าวเขย่าขวัญพรรคการเมืองให้สับสนไขว้เขว ไม่กล้าออกศึก ไม่กล้าทุ่มสู้อย่างเต็มที่ ข่าวลืออันนี้คิดแล้วก็ทีบางฝ่ายได้ประโยชน์ จึงขยันปล่อยออกมา

ปัญหาที่จะทำให้เลือกตั้งสะดุดจริงๆ คงเป็นเรื่องบัตรเลือกตั้ง ที่กกต. หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง เสนอว่าจะใช้บัตรที่ไม่มีชื่อคนสมัคร ไม่มีชื่อพรรค ไม่ใส่โลโก้พรรคการเมือง

อันนี้แหละที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะถูกคัดค้านอย่างหนักจากนักการเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกกต. ที่จะใช้ “บัตรโหล”เหมือนเคยใช้ในการเลือกตั้งในอดีตสำหรับเลือกตั้งแบบเขต

ส่วนครั้งนี้ กติกากำหนดให้ “บัตรใบเดียว”ได้สองคะแนนคือ คะแนนส. ส. ในเขตและคะแนนรวมส. ส. แบบบัญชีรายชื่อ เอาทุกคะแนนมาใช้เพื่อคำนวณหาส่วนส. ส. ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์

ดังนั้นบัตรเลือกตั้งต้องให้รายละเอียดทั้งเบอร์ผู้สมัคร และพรรคที่สังกัดด้วย
ชื่อพรรคการเมืองถือว่าเป็นสาระสำคัญ จะตัดออกไม่ได้

ปัญหาของกกต. ก็เป็นเรื่องที่กกต. ต้องไปแก้โจทย์ให้ได้ต่างหาก ไม่ใช่แก้ปัญหาอย่างมักง่าย และหวังเอาตัวรอดเท่านั้น โดยการใช้บัตรโหล เหตุที่กกต. คิดง่ายๆแบบนี้เลยทำให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซวยไปด้วย โดนด่าเละ

โดนนักการเมืองที่จ้องขย่มบิ๊กตู่อยู่แล้ว ได้ทีหยิบเรื่องนี้ไปขยาย รุมถล่มว่า เป็นการใช้กลยุทธ์อีกกระบวนท่าหนึ่งที่จะเอาเปรียบพรรคคู่แข่งอีกแล้ว หลังจากที่เพิ่งจะยึกยักกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง เรื่องก็เพิ่งจบไปหมาดๆ บิ๊กตู่กับคสช. ก็โดนถล่มหนักว่า

ใช้กกต. เป็นเครื่องมือเป็นหมาก ที่ถูกจับเดินบนกระดานหมากรุกการเมือง คราวนี้กับการทำบัตรเลือกตั้งก็เอาอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่า บิ๊กตู่เป็นคนสั่ง หรือแค่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกกต. กันแน่

เรื่องบัตรเลือกตั้ง ถ้าเป็นแผนเอาเปรียบคู่แข่งก็ถือว่าแย่ เพราะชอบทำเรื่องหยุมหยิมจุกจิกแบบนี้ จะทำให้การเลือกตั้งมีภาพติดลบตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนาม แล้วจะเป็นดาบสองคมที่บิ๊กตู่และพรรคพลังประชารัฐจะเสียหาย เพราะคนจะหันไปช่วยพรรคฝ่ายตรงข้าม จะเกิดปรากฏการณ์แนวร่วมมุมกลับ

ข้อสรุปของบัตรเลือกจะมีหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนอย่างนักการเมืองโจมตี หรือจะเปลี่ยนใจไปใช้ให้ถูกต้องตามมาตราฐานที่ควรเป็น รอกกต. จะประชุมในวันพุธนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น