xs
xsm
sm
md
lg

ฝากขัง “เจ๊ดา” จอมบงการสาดน้ำพริกสาวขับเบนซ์ นอนคุกไร้ญาติประกัน แสบเคยหลอกขายกรมธรรม์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจคุม “เจ๊ดา” ผู้ว่าจ้างให้นำน้ำพริกป่นสาดใส่สาวขับรถเบนซ์หวังชิงทรัพย์ ฝากขังศาล ไร้ญาติประกันตัวต้องเข้าไปนอนในเรือนจำ สุดแสบพบประวัติเคยหลอกขายกรมธรรม์ ศาลสั่งปรับ 500 ห้ามเข้าบริเวณศาล



ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (17 พ.ย.) ร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้คุมตัว น.ส.แสงอรุณ ประทุมพวง หรือเจ๊ดา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 600/121 ซ.พหลโยธิน 54/1 แยก 6-1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ฯ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พ.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานบุคคลอีก 4 ปาก รอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาประกอบสำนวน

พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 เวลา 20.30 น. ขณะที่ น.ส.วาสนา เวสารัชเวศย์ อายุ 48 ปี ผู้เสียหายขับรถยนต์เบนซ์ ซี 250 สีขาว แบบสปอร์ต ทะเบียน 5 กฮ 6804 กรุงเทพมหานคร มาตามถนนกำแพงเพชร เมื่อมาถึงแยกด่วนโรงปูน หรือหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กทม. ได้หยุดรถรอสัญญาณไฟ ปรากฏว่า น.ส.นิภาพร สมุทรคีรี ผู้ต้องหาได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกูปปี้ ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดด้านซ้ายแล้วเคาะกระจกรถฝั่งด้านซ้ายคนขับ ทำทีเหมือนจะสอบถามเส้นทาง เมื่อผู้เสียหายลดกระจกลง ทันใดนั้น น.ส.นิภาพรได้สาดน้ำพริกป่นใส่ใบหน้าจนตาทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 800,000 บาท กำไลเพชร มูลค่า 65,000 บาท ซึ่งวางไว้ที่บนเบาะด้านซ้าย เชื่อว่า น.ส.นิภาพรจะลักเอาทรัพย์สินจึงรีบขับรถขึ้นทางด่วนไปรักษาอาการบาดเจ็บ แล้วเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดี

ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่ามีนายอณิรุฒ วัฒนา พยานยืนยันว่า น.ส.นิภาพรได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.แสงอรุณ หรือเจ๊ดา ผู้ต้องหา ให้นำน้ำพริกมาสาดใส่หน้าผู้เสียหาย และให้ชิงเอาทรัพย์สินภายในรถผู้เสียหายมาให้ผู้ต้องหา

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.นภาพร ได้มาชักชวนตนให้ร่วมก่อเหตุด้วย แต่ตนไม่ยินยอมเข้าร่วมกระทำผิด โดยหลังก่อเหตุ น.ส.นิภาพรได้โทรศัพท์มาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตนฟัง พร้อมกับแจ้งว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ตนจึงเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ไว้เป็นพยานแล้ว

ต่อมาวันที่ 16 พ.ย.เวลา 23.00 น. น.ส.แสงอรุณ หรือเจ๊ดา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ซึ่งแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1), 339 วรรคสอง 340ตรี 80,83 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอประกันตัวให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่มีญาติของ น.ส.แสงอรุณ หรือเจ๊ดา ผู้ต้องหามายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวเจ๊ดาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.แสงอรุณ หรือเจ๊ดา ที่ น.ส.นิภาพรให้การว่าเป็นผู้ว่าจ้าง ทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าเคย อ้างเป็นนายประกันที่ศาลอาญา ต่อมาถูกดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในบริเวณศาลอาญา เมื่อปี 2560 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ล.5/2560 กรณีเมื่อเดือน พ.ค. 2560 เจ๊ดาได้ให้บุตรของผู้ต้องหาคดีหนึ่งมาพบที่โรงอาหารศาลอาญา และให้จ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อซื้อกรมธรรม์กับบริษัทประกันภัย จำนวน 50,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกับผู้รับมอบอำนาจของบริษัทประกันภัย จนทราบว่าไม่มีเงินวางค่าเบี้ยประกัน บริษัทจึงไม่สามารถรับทำประกันในคดีนั้นได้

ต่อมาบุตรของผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้ติดต่อขอเงินคืน และได้รับเงินคืนมา 48,000 บาท โดยเจ๊ดาอ้างว่า ได้หักเงินบางส่วนเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งศาลอาญาได้ดำเนินการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลดังกล่าว และศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2560 โดยสั่งปรับ 500 บาท และห้ามเข้าบริเวณศาลอาญาเป็นเวลา 2 ปีด้วย ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 2560




กำลังโหลดความคิดเห็น