xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “ทักษิณ-เพื่อไทย”จัดทัพสู้ ผวายุบพรรค รอบ 3 หลอน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ตอน “ทักษิณ-เพื่อไทย”จัดทัพสู้ ผวายุบพรรค รอบ 3 หลอน


 
พรรคเพื่อไทย ได้มีการจัดทัพใหญ่ เลือกกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยกันไปเมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยรายชื่อเป็นไปตามคาด คือ  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ นั่งเป็น ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย

“เจ๊หน่อย สุดารัตน์”เจ้าแม่กทม. ไม่ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ตามความต้องการของแกนนำพรรค และตัวเองก็ดูจะไม่มีอาการใดๆ คงเพราะว่าได้มีการวางตัวให้ เจ๊หน่อย รอเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค จะได้อยู่ในเซฟตี้โซนการเมือง
 
เพราะเพื่อไทยเชื่อว่า ยังคงมีความพยายามจากบางฝ่ายที่จะทุบพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการยุบพรรค โดยใช้ช่วงเลือกตั้ง เป็นต้นทางไปสู่คดียุบพรรค จึงต้องกันเจ๊หน่อย ไว้ในพื้นที่ปลอดภัย

ไม่ให้เสี่ยงติดร่างแห โดนเว้นวรรคการเมืองถ้าหากดันสุดารัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค หรือมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เมื่อเจอคดียุบพรรคสุดารัตน์อาจจะโดนตัดสิทธิ์เป็นรอบสอง หลังเคยโดนมาแล้วกับพรรคไทยรักไทย เมื่อปี2550

โดยสูตรเซฟตี้โซนก็ใช้กับแกนนำพรรคคนอื่นๆ ด้วยเกือบทั้งหมด จึงจะเห็นได้ว่า แกนนำพรรค คีย์แมนพรรค ที่มีบทบาทในพรรค เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ,

โภคิน พลกุล ,พงศ์เทพ เทพกาญจนา ,ชัยเกษม นิติศิริ ,ชูศักดิ์ ศิรินิล รวมถึงขาใหญ่ตัวจริงอย่าง ร. ต. อ. เฉลิม อยู่บำรุง ก็ไม่มีใครเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค
 
พอจะเห็นได้ว่า ยุทธศาสตร์การเมืองที่ทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทยวางไว้ คือ พวกกรรมการบริหารพรรค ที่มีด้วยกัน  15รายชื่อ เกือบทั้งหมด จะถูกส่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะไม่ให้ลงสมัครส.ส.เขต อย่างเด็ดขาดด้วย

เนื่องจากการลงสมัครส.ส.เขต จะต้องมีการหาเสียง มีการพบหัวคะแนน ต้องมีการแข่งขันในพื้นที่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงโดนเอาผิดในช่วงเลือกตั้งได้แบบเดียวกับที่ ยงยุทธ  ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ อดีตผู้สมัครส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน เคยโดนมาแล้วตอนเลือกตั้งปี 2550  

และเมื่อยงยุทธ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน โดนเอาผิด เลยทำให้พลังประชาชนโดนยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคตอนนั้น โดนโทษเว้นวรรคกันหมดทั้งพรรค
 
มารอบนี้ เพื่อไทยเลยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาก่อนทุกเรื่อง จึงเก็บบรรดาขุนพลไว้ไม่ให้เสี่ยงภัยกับคดียุบพรรค คือไม่ให้คนบริหารพรรคลงเลือกตั้งเขตทเช่นเดียวกับจะไม่เอาพวกลงสมัครส.ส.เขต มาไว้ในกรรมการบริหารพรรค

เว้นแต่อาจจะมีบางคนเท่านั้น ที่เห็นว่าไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ก็มีไม่กี่คน เช่น  นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ขอลงสมัครส.ส.กทม.เขตคลองเตย  ส่วนพวกที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรค ก่อนหน้านี้ แล้วจะไปลงสมัครส.ส.เขต

อย่าง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรค อดีตส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หลายสมัย  รอบนี้ขอลง ส.ส.เขต นครพนม  ทางพรรคก็กันไว้ ไม่ให้มาเป็นกรรมการบริหารพรรค
 
สำหรับการแต่งตั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ มาเป็นหัวหน้าพรรค ก็ถือว่าเป็นสูตรที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อไปได้ ไม่เกิดแรงกระเพื่อม ไม่เกิดปัญหารอยร้าวเนื่องจากเหตุถ้าตั้งสุดารัตน์อาจตีกันเอง

เพราะอย่างที่รู้กันว่า แรงต้านเจ๊หน่อยในเพื่อไทย โดยเฉพาะจากแกนนำพรรคบางกลุ่ม อดีตส.ส.หลายกลุ่มทั้งสายภาคเหนือ ภาคอีสาน สายเสื้อแดง ยังตั้งท่าตั้งป้อมไม่เอาเจ๊หน่อยอยู่
 
ที่สำคัญ การให้พล. ต. ท. วิโรจน์เป็นหัวหน้าพรรคก็เป็นกลยุทธ์การซื้อใจคนในพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิโรจน์ ที่แม้จะอายุมาก แต่ก็เป็นที่ยอมรับ มีพรรษามากอยู่ในวงการการเมืองมาหลายสิบปี

เคยเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อดีตรองนายกฯ อดีตรมช.มหาดไทย อดีตส.ส.อ่างทองหลายสมัย มีความกว้างขวาง รู้จักคนหลายแวดวง  เป็นมือประสานคนสำคัญของเพื่อไทย
 
สี่ปีกว่าที่ผ่านมาในรัฐบาลคสช. คนในพรรค ก็เห็นว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคได้ดี  หากจะไม่ให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว คงทำให้คนในพรรคเกิดความรู้สึกไม่ดี ทำงานให้พรรค ไม่ได้รับการเหลียวแล ที่จะมีผลต่อกำลังใจคนในเพื่อไทย
 
เพราะแม้ พล.ต.ท.วิโรจน์ จะอายุมาก แต่เมื่ออดีตส.ส.เพื่อไทยส่วนใหญ่สนับสนุน และมองว่า เรื่องอายุก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะพล.ต.ท.วิโรจน์ จะเป็นหัวหน้าพรรคพร้อมกับลงสมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์หนึ่ง

ไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดทนายกฯ ซึ่ง การหาเสียง ไม่ได้ชูเป็นนายกฯ แต่ชูแคนดิเดทนายกฯสามรายชื่อที่คาดว่าน่าจะมีชื่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นตัวหลัก จึงไม่ได้มีผลกับ การที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้อาวุโสอย่าง พล.ต.ท.วิโรจน์
 
ด้วยเหตุนี้ ทุกอย่างจึงลงตัว พล.ต.ท.วิโรจน์ ก็นั่งเป็นหัวหน้าพรรค โดยมี ภูมิธรรม เวชชยชัย มาเป็นเลขาธิการพรรค
 
ส่วน เจ๊หน่อย ไปเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพ่วงไปกับ การเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาคัดเลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ 

พร้อมกับทำหน้าที่เตรียมการเลือกตั้งให้กับเพื่อไทย ตั้งแต่การวางนโยบายพรรคที่จะใช้หาเสียง การวางแคมเปญพรรคในการรณรงค์เลือกตั้ง เรียกว่าการกลับมาของเจ้าแม่กทม. ครั้งนี้ได้รับความไว้วางใจมาก ทั้งจากคนแดนไกลและบ้านจันทร์ส่องหล้า

พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อถึง เรื่องของคุณหญิง สุดารัตน์ และพรรคเพื่อไทยที่จะมีโอกาสโดนยุบแค่ไหน ใครจะเป็นคนทำเรื่องยุบ ซึ่งคนๆนี้ พอเพื่อไทยได้ยินชื่อก็ขนหัวลุกกันทั้งพรรค เขาเป็นใคร? โปรดอดใจรอ


กำลังโหลดความคิดเห็น