อดีตตำรวจโวย สร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรรทับทางระบายน้ำของชาวบ้าน ทำให้ชุมชนดังเดิมหลายหลังได้รับผลกระทบ น้ำเข้าท่วมบ้านตลอดฤดูฝน หลานวัย 10 เดือน เกือบดับ
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.61 ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 ซอยนนทบุรี 4 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายไกร แสงอ่วม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครนนทบุรี พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักของ ร.ต.ต.หญิงบุษรา ครุฑานุช อายุ 52 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า น้ำเข้าท่วมบ้านสูงประมาณ 50 ซม.หลังฝนตกหนัก และเกิดเหตุลักษณะนี้มาตลอดฤดูฝนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรโครงการหนึ่ง ทับทางระบายน้ำของชาวบ้าน ทำให้มีบ้านเรือนหลายหลังได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ตกจนน้ำเข้าท่วมบ้าน เพราะไม่สามารถระบายน้ำฝนได้
จากการเข้าสำรวจบ้านหลังดังกล่าวพบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 300 ตร.ว. พื้นที่บ้านอยู่ต่ำกว่าถนนสาธารณะประมาณ 20 ซม. บริเวณสนามหน้าบ้านยังมีร่องรอยน้ำท่วม พื้นดินยังชุ่มไปด้วยน้ำ ตรวจสอบด้านหลังบ้าน พบว่า รั้วบ้านอยู่ติดกับรั้วโครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว ซึ่งโครงการมีการถมพื้นให้สูงกว่าบ้านเรือนในชุมชนเดิม ส่วนบ้านที่อยู่ข้างเคียงยังคงมีพื้นอยู่ในระดับเดิมเช่นกัน ทำให้บ้านในละแวกนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ตกหนัก และไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทันหลายหลังคาเรือน ซึ่งหลังเกิดน้ำท่วมมาหลายครั้ง ร.ต.ต.หญิง บุษรา ครุฑานุช อายุ 52 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ได้มีการเขียนป้ายร้องเรียนว่า “ชาวบ้านเดือดร้อน!! หมู่บ้านทำน้ำท่วม เด็กเกือบตาย วอนขอความเป็นธรรม” ไปติดไว้ด้านหน้าของหมู่บ้านดังกล่าว
จากการสอบถาม ร.ต.ต.หญิง บุษรา (หน่อย) ครุฑานุช อายุ 52 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ทราบว่า ตนอัดอั้นตันใจตนอยู่บ้านหลังนี้มา 40 ปี เมื่อปี 2554 น้ำท่วมใหญ่ ที่บ้านหลังนี้ไม่เคยท่วม ตั้งแต่หมู่บ้านนี้มาปลูกสร้าง บ้านตนได้รับความเดือดร้อนมาก เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่ผ่านมา น้ำท่วมบ้านตนอย่างหนัก ทุกครั้งที่น้ำท่วมตนจะถ่ายวิดีโอไลฟ์สดไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ท่วมสูงประมาณ 30 ซม. ตนกลุ้มใจมาก ด้านหลังบ้านเมื่อก่อนเป็นลำกระโดงทางน้ำไหล ที่ข้างเคียงใช้มานานกว่าที่ตนมาอยู่ ตั้งแต่โบราณ พอหมู่บ้านเข้ามาทำให้คนที่อยู่ข้างเคียงกลุ้มใจมาก น้ำท่วมบ้านตนอยู่หลายครั้ง และข้างบ้านน้ำท่วมจนเป็นทะเลสาบ
ชาวบ้านเคยบอกหมู่บ้านแล้วว่าอย่าปิดทางระบายน้ำ แต่โครงการทำการปิดโดยไม่สนใจ ทำให้น้ำท่วม พวกตนจึงร้องเรียนไปที่เทศบาลนครนนทบุรี ทางโครงการได้เข้ามาดู แต่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ จนข้าวของเสียหายมากมาย ท่วมสะสมต้องช่วยตัวเอง ต้องย้ายปลั๊กไฟฟ้าหนีน้ำ หอบลูกไปนอนบ้านพี่น้องบ้าง จากนั้นทางเทศบาลได้ออกเอกสารให้ทางหมู่บ้านแก้ไข 2 ฉบับ แต่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น 7 เดือนผ่านไป แต่ที่เจ็บใจที่สุด คือ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ฝนตกหนักน้ำได้ท่วมสูงประมาณ 50 ซม. และได้ท่วมเข้าไปด้านในตัวบ้านที่มีหลานชายอายุ 10 เดือน นอนคว่ำอยู่ ตนไม่อยู่บ้าน ลูกเขยและแม่บ้านได้ช่วยกันย้ายของเพราะตกใจ ลืมว่ามีเด็กอยู่ในบ้าน จนเข้าไปพบว่าน้ำท่วมที่นอนหลานทั้งหมด เด็ก 10 เดือน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าลูกเขยเข้าไปช้าหลานตนเองต้องตายแน่นอน ตนเจ็บข้างในหน่วยไหนจะช่วยเหลือครอบครัวตนเองได้บ้าง ประชาชนเดือดร้อนหน่วยไหนจะช่วยและให้ตนได้พึ่งข้าง ขอเทศบาลทางหมู่บ้านก็ไม่ฟังเทศบาล ตนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องเข้ามาดำเนินการให้ ถ้าเข้าไปช่วยหลานชายไม่ทัน ความสูญเสียครั้งนี้ทั้งหมู่บ้านก็ชดใช้ให้ไม่ได้
นายไกร แสงอ่วม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครนนทบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบ้านผู้ร้อง พบว่า บ้านเป็นบ้านดังเดิมที่ไม่ได้มีการยกพื้นขึ้นมา หลังปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ หมู่บ้านที่เกิดใหม่จึงมีการถมดินให้สูงขึ้น ทำให้พื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ได้ออกสั่งให้ระงับการถมดิน แต่ตอนนี้ทางโครงการได้ถมดินเสร็จไปหมดแล้ว จากการตรวจสอบที่ดินเมื่อขอใบอนุญาตไม่มีว่ามีลำรางน้ำ แต่เจ้าของที่ดินยืนยันว่ามีลำกระโดงเก่าอยู่ ต้องตรวจสอบกับกรมที่ดิน ว่า มีลำรางเก่าหรือไม่ ทางหมู่บ้านได้มีการเยียวยาเบื้องต้นโดยวางท่อให้ แต่ขนาดท่อไม่พอกับปริมาณน้ำที่มีพื้นที่มาก และได้มีการใช้เครื่องสูบน้ำที่มีการติดตั้งไม่เพียงพอเช่นกัน
เบื้องต้นเทศบาลนครนนทบุรี ได้มีคำสั่งเลขที่ นบ 52005/5845 ลงวันที่ 7 ก.ย.61 และเลขที่ นบ 52005/5846 ลงวันที่ 7 ก.ย.2561 ไปแล้วนั้น ว่า มีคำสั่งให้หยุดการขุดดินหรือถมดิน และคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขอาคาร โดยให้ทางโครงการ 1. จัดทำระบบระบายน้ำให้ถูกต้องเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน 2. ให้จัดหาสถาบันหรือวิศวกรโยธามาดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย แต่ผลปรากฏว่า จนวันนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากนี้ทางเทศบาลนครนนทบุรี จะประสานทางหมู่บ้านให้มีการเยียวยา เนื่องจากหมู่บ้านมาสร้างที่หลังชุมชนดังเดิม และถ้าไม่ดำเนินการจะมีการสั่งให้ระงับโครงการทันที
