xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ดอนเมืองรับ จนท.ใช้กำลังเกินเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน มีโทษถึงไล่ออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งโต๊ะแถลงยอมรับ เจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมือง ใช้กำลังเกินกว่าเหตุจริง หลังนักท่องเที่ยวจีนป่วน ไม่แสดงเอกสารยืนยันการเข้าพักในประเทศไทย จนถูกส่งกลับประเทศ ระบุถือว่าผิดวินัยร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออก เสียใจกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย เตรียมทำหนังสือถึงสถานทูตจีน เพื่อขอโทษผู้เสียหาย พร้อมย้ำทำวีซ่าเข้าประเทศเสียแค่ 2 พัน ไม่มีเรียกเพิ่มอีก 300

สืบเนื่องจากกรณี ผู้ใช้เวยป๋อ (Weibol สื่อสังคมออนไลน์ของจีน ในชื่อบัญชี ชือไจ้ว่านโจว (吃在万州) ได้โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพเหตุการณ์ในสนามบินแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยระบุข้อความว่า “เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไทยชกนักท่องเที่ยวจีน ขณะกำลังเดินทางผ่าน ตม.เข้าประเทศไทย เนื่องเพราะไม่ให้ทิป จึงถูกเจ้าหน้าที่ของไทยชก ก่อนเดินทางกลับกวางเจา (กว่างโจว)" ซึ่งคลิปดังกล่าวมีการส่งต่อและมีผู้เข้าชมมากกว่า 5 หมื่นครั้ง โดยมีชาวจีนจำนวนมากให้ความเห็นว่าจะยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย ตามปรากฏเป็นข่าวนั้น

ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องพักรอบุคคลสำคัญ บริเวณห้องรับรองพิเศษ (MJET เก่า) ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ น.อ.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง แถลงว่า คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2561 เวลาประมาณ 22.27 น. โดย ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สายการบินไลอ้อนแอร์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณห้องพักรอผู้โดยสารส่งกลับ เนื่องจาก นายเหมย จี (Mr.Mei Ji) ผู้โดยสารชาวจีน เดินทางด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL 117 จากเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย มายัง ทดม. ซึ่งถูกปฏิเสธการเข้าเมือง เพราะไม่แสดงเอกสารยืนยันการเข้าพักในประเทศไทย และแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งไม่ยินยอมในการเข้าห้องพักรอผู้โดยสาร

น.ท.สุธีรวัฒน์ เผยอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุมาถึง และปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนการปฏิบัติแต่กลับถูกผู้โดยสารขัดขวาง ก่อความวุ่นวาย และพยายามหลบหนีไปทาง Bus Gate อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุ จึงได้เข้าควบคุม แต่ได้มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออก และ ทอท.จะดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ขณะนี้ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวซึ่งเป็นพนักงานจัดจ้างของ ทอท. และทำงานที่นี้มาแล้วประมาณ 1 ปี เพราะอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริง

“ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทดม. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และยินดีบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งจะทำหนังสือผ่านสถานทูตจีนเพื่อขอโทษผู้เสียหายต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ให้สายการบินไลอ้อนแอร์ดำเนินการส่งตัว นายเหมย จี กลับด้วยเที่ยวบิน SL 038 เส้นทาง ทดม.-กวางโจว เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย.61 เวลา 00.45 น.” น.อ.สุธีรวัฒน์ กล่าว

น.อ.สุธีรวัฒน์ เผยอีกว่า ทอท.ยินดีให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยปัจจุบัน ทอท.ได้ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดช่องทางพิเศษเป็นการเฉพาะให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนใน 5 ท่าอากาศยานหลักตามด่านตรวจคนเข้าเมืองผู้โดยสารขาเข้า ประกอบไปด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่อง ท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดช่องทางพิเศษ 21 ช่อง,ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดช่องทางพิเศษ 8 ช่อง ท่าอากาศยานภูเก็ตเปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่องและท่าอากาศยานหาดใหญ่เปิดช่องทางพิเศษ 10 ช่อง อีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผลดี รองผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (รอง ผบก.ตม.2) กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเข้าประเทศ ณ ปลายทางประเทศไทย หรือ VISA ON ARRIVAL หากทำเรื่องที่สถานทูตจะเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท แต่ถ้าทำผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินจะเสียเพิ่มเป็น 2,000 บาท เพื่อช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติ ในส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ของ ตม. เรียกเก็บเงิน 200-300 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เป็นความเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่จะไม่รับพร้อมทำการคืนเงิน โดยมีการบันทึกภาพเป็นหลักฐานทุกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น