MGR Online - พ่อค้าส้มตำ-ภรรยา พร้อมลูกสาว เข้าพบ คกก.สอบวินัยร้ายแรง 6 ตำรวจ และให้ออกจากราชการหลังถูกร้องรีดเงิน 5 หมื่น เพื่อเป็นพยาน และขอบคุณ “บิ๊กหยม” ยันไม่หวั่นถูกจดหมายขู่ เพราะมีตำรวจคอยพิทักษ์ดุจญาติมิตร
กรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำ ปลาดุกย่าง และข้าวเหนียว ปากซอยพระราม 6 แยก 22 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีต่อ ด.ต.วรพล สันติพิริยาภรณ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1 กับพวกรวม 6 คน หลังใช้อำนาจโดยมิชอบเรียกรับเงิน 50,000 บาท เหตุเกิดวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจาก พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.ลงนามคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ตำรวจทั้ง 6 นายออกจากราชไว้ก่อนนั้น
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานความว่า นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พร้อมภรรยา ลูกสาว และตัวแทนนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เพื่อเป็นพยานในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สำหรับใช้ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีสอบวินัยร้ายแรงตำรวจทั้ง 6 นาย พร้อมกราบขอบคุณ พล.ต.ท.ชาญเทพ และตำรวจที่เกี่ยวข้องที่ช่วยทำคดีให้
นายศักดิ์ชัยกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบได้นัดตนมาพบเวลา 10.00 น. หลังมีการพิจารณาลงโทษทางคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจดหมายข่มขู่ใครส่งมา แต่ตนไม่กลัวอยู่แล้วเพราะได้ตำรวจคอยพิทักษ์ดุจญาติมิตร
“ผมรักตำรวจนครบาล ผมพอใจกับการตัดสินของ ผบช.น.” พ่อค้าส้มตำครกทองกล่าว