MGR online - ตำรวจ 191 จับกุมยาบ้ากว่า 4 แสนเม็ด ขณะกำลังลำเลียงลงใต้ พร้อมผู้ต้องหาอีก 3 คน สารภาพทำมาแล้วนับ 10 ครั้ง ตำรวจเตรียมขยายผลจับเครือข่ายต่อไป
วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ กองกับกำการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (สปพ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดที่ลำเลียงไปจำหน่ายตามจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายวินา หรือ ไม้ คำโสม อายุ 34 ปี นายเอกศักดิ์ หรือ เบ๊นซ์ นวลจันทร์ อายุ 23 ปี และ น.ส.อนิษา หรือ จูน นิ่มนวน อายุ 33 ปี พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 402,747 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม พร้อมบัตรเครดิต และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบเครือข่ายดังกล่าวมีต้นทางการขนย้ายมาจากพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยจะลำเลียงมาจำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น จ.กระบี่ จ.ภูเก็ต จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ ให้การยอมรับว่าเคยทำมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่าหลักแสนเม็ด ตลอดระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
พ.ต.อ.สำราญ รอง ผบก.สปพ. กล่าวว่า ภายหลังการเฝ้าติดตามกลุ่มผู้ต้องหา หลังได้รับการประสานข้อมูลกับตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายเอกศักดิ์ และ นายวินา ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดได้ที่จุดจอดรถทัวร์มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยจับได้พร้อมกับของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด ต่อมาขยายผลตรวจค้นบ้านอีก 3 หลัง จนสามารถจับกุม น.ส.อนิษา ผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางกับผู้ค้ารายใหญ่ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 86 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พบของกลางยาบ้าอีก 2,747 เม็ด
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งสาม ให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติดทั้งหมดมาจาก น.ส.เบียร์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อีกทอดหนึ่ง เพื่อนำไปส่งกับลูกค้าในภาคใต้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมกับผู้ร่วมกระทำความผิดในเครื่อข่ายยาเสพติดรายอื่น พร้อมดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
