แม่วัยสาวคลอดบุตรแรกเกิด ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.บางบ่อ สงสัยและติดใจว่าทำไมลูกตัวเองถึงเสียชีวิต ตัดสินใจขุดหลุมฝังศพของลูกสาว นำมาขอ ให้ตำรวจส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
วันที่ 1 ก.ย.61 น.ส.ปิยธิดา ผิวขำ อายุ 31 ปี เข้าพบ ร.ต.อ.วิศรุต ชูโฉม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีที่ร้องขอให้ตำรวจนำศพของ ด.ญ.ปัณฑิดา ผิวขำ หรือ น้องเดียร์ บุตรสาวทารกแรกเกิด ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
น.ส.ปิยธิดา ผิวขำ ให้การว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ตนเองได้คลอดเด็กหญิง ปัณฑิตา ผิวขำ หรือ น้องเดียร์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.บางบ่อ น้ำหนักแรกคลอด 2,920 กรัม พยาบาลแจ้งว่า น้องเดียร์แข็งแรงดี ในวันนั้น น้องเดียร์ก็ดูดนมตัวเองตามปกติ ต่อมาวันที่ 27 สิงหาคม หมอมาแจ้งกับตนเอง ว่า ลำไส้ใหญ่น้องผิดปกติ ต้องงดนม แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหมอจะให้อาหารทางสายน้ำเกลือ ต่อมาวันที่ 28 ส.ค. เวลา 22.00 น. ตนเองไปดูลูก ก็ยังเห็นว่าปกติดี กระทั่งเวลา 23.00 น. พยาบาลได้มาแจ้งว่าลูกหยุดหายใจ และผ่านไป 1 ชั่วโมง มีพยาบาลมาบอกว่า น้องไม่ตอบสนอง และเสียชีวิต ขณะนั้นตนเองรู้สึกตกใจและเสียใจมาก วันต่อมา หมอได้ให้ตนเองดูฟิล์มเอกซเรย์ บอกว่า ลูกติดเชื้อขั้นรุนแรงในลำไส้ ตนเองก็ไม่เข้าใจ และดูฟิล์มเอกซเรย์ไม่เป็น จึงนำศพน้องไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยการฝัง แต่ด้วยความที่สงสัยและติดใจว่าทำไมลูกตัวเองถึงเสียชีวิต จึงได้ตัดสินใจขุดหลุมฝังศพของลูกสาวนำมาขอให้ตำรวจส่งชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เพื่อให้หายสงสัย
ด้าน พ.ต.อ.สรวิศ สุขแพทย์ ผกก.สภ.บางบ่อ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากแม่ของเด็ก ขอให้นำศพของลูกสาวที่เพิ่งคลอด และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งตำรวจก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนผลชันสูตรจะทราบภายใน 45 วัน ซึ่งวันที่น้องเสียชีวิตนั้น ทางโรงพยาบาลไม่มีการแจ้งมาที่สถานีตำรวจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ ประกอบกับในขณะนั้นญาติก็ไม่ติดใจในการใช้ชีวิต แต่เมื่อญาติมีข้อสงสัย ทางตำรวจก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ในขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร ต้องรอผลการชันสูตรศพจากโรงพยาบาลมาประกอบก่อน
