xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : เปิดลึก“ครม.สัญจร”ชิงแนวร่วม นาทีทองเก็บคะแนนเสียง“บิ๊กตู่”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2561 ตอน เปิดลึก“ครม.สัญจร”ชิงแนวร่วม นาทีทองเก็บคะแนนเสียง“บิ๊กตู่”



ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนี้ก่อนถึงการเลือกตั้งใหญ่ประมาณต้นปี2562 ถือเป็นช่วงเวลานาทีทองของการกอบโกยคะแนน เป็นต้นทุนตุนไว้สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เห็นกันชัดๆในแต่ละวัน แต่ละเดือนรัฐบาลคสช. เคลื่อนย้ายลงพื้นที่ถี่ยิบ

ดูเผินๆ เหมือนการตัดสินใจเลือกลงพื้นที่แต่ละแห่ง มาจากการแบ่งกลุ่มจังหวัดและภาค เพื่อให้ทั่วถึงทุกภาค แต่สแกนลงลึกลงไป ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร แต่ละจังหวัดที่ไปล้วนมีนัยทางการเมืองแทบทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เห็นเป็นจังหวัดใหญ่แล้วยกขบวนกันไปสุ่มสี่สุ่มห้า

ย้อนกลับไปที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานำ ครม.สัญจรกลับมาปัดฝุ่น ปักหมุดจังหวัดแรกที่เลือกลงคือ ประตูสู่ภาคอีสานอย่าง จ.นครราชสีมา บ้านเกิด

แน่นอนเมืองย่าโมคือ จังหวัดใหญ่ แต่ในทางการเมือง ที่นี่คือ จังหวัดที่มีความหลากหลายของพรรคการเมือง ไม่ได้ถูกผูกขาดโดยพรรคใดพรรคหนึ่ง

ที่ “เมืองย่าโม” มีอดีต ส.ส.ของทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติพัฒนา หากต้องการแบ่งคะแนนจากพรรคการเมืองนี่ถือเป็นยุทธภูมิที่เหมาะอย่างยิ่ง หรือครั้งต่อมาที่ “บิ๊กตู่” ยกทัพไปประชุมกันที่จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีโปรแกรมลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี

กลายเป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง เมื่อนักการเมืองอดีตส. ส. เจ้าของพื้นที่สุพรรณบุรีไปต้อนรับขับสู้ในฐานะเจ้าบ้าน พร้อมกับหยอดคำหวานให้บิ๊กตู่อยู่นานก็ได้ ถ้าแก้ปัญหาให้ประชาชน!

ภาพอดีตส.ส.สุพรรณบุรี อี๋อ๋อ “บิ๊กตู่” ถูกฟันธงว่า นอกจากพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนาแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนาคือ อีกแนวร่วมที่พร้อมจะลงเรือแป๊ะในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ขณะที่ในภาคใต้ “บิ๊กตู่” เลือกไปประชุมกันที่ จ.สงขลา แต่กลับเลือกที่จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ จ.ปัตตานี แม้พื้นที่ภาคใต้ส่วนใหญ่จะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ แต่จ.ปัตตานี เป็นโซนที่ขุนพลแดนสะตอไม่สามารถเหมาได้ โดยมีพรรคเพื่อไทยแบ่งคะแนนไป จึงเหมาะกับการเจาะทะลวง

ที่หวือหวาอีกครั้งกับประชุม ครม.สัญจร ก็เป็นที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย เพราะ “เจ้าพ่อวังน้ำยม” สมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะแกนนำกลุ่มมัชฌิมาแทบจะทำความสะอาดบ้านสะอาดเมืองรอต้อนรับ “บิ๊กตู่”แบบอลังการงานสร้าง

โดย “สมศักดิ์” พาสมาชิกกลุ่มมัชฌิมา นักการเมืองท้องถิ่น อดีต ส.ส. ที่มีทั้งหมดใน จ.สุโขทัย ร่วมประชุมและสนทนากับ “บิ๊กตู่” แบบหวานชื่นจนคนอิจฉา จึงเชื่อว่า กลุ่มมัชฌิมาคือ อีกกลุ่มที่โดดร่วมวงท็อปบูตไปแล้ว

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่มีการประชุม ครม.สัญจร ก็จะเป็นโอกาสจัดอีเวนท์เปิดตัวแนวร่วมทางการเมืองของ “ท็อปบูต” แม้แต่ครั้งก่อนหน้านี้ที่ระเบียงตะวันออก ไปประชุมที่ จ.ตราด และจันทบุรี

แต่ในเวที “พบปะผู้นำท้องถิ่น” ก็มีนักการเมืองในพื้นที่ตะวันออกมาร่วมเต็มไปหมด โดยเฉพาะพรรคพลังชลที่มองกันว่าไม่น่าพลาดร่วมเรือแป๊ะก็มายืนยันข่าวลือเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย

การประชุม ครม.สัญจร เที่ยวล่าสุดในวันที่5-6 มีนาคมนี้ “บิ๊กตู่” ก็ยังเลือกพื้นที่ที่นักการเมืองเจ้าถิ่นจะมาอยู่กับตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า นั่นคือ สมุทรสาคร เพชรบุรี และอ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะเพชรบุรี ที่เป็นเป้าหมายหลัก

ทุกคนรับรู้กันดีว่า หนึ่งในเจ้าถิ่นของที่นี่คือ “อลงกรณ์ พลบุตร” อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่แยกตัวออกมาอยู่กับ คสช.ตั้งแต่มีการคลอดแม่น้ำ 5 สาย และในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่แม้ยังไม่รู้ว่า เขาจะอยู่สังกัดใด แต่แน่นอนว่า เขาจะร่วมรัฐบาลกับ คสช.แบบร้อยเปอร์เซ็นต์

แล้วยังแว่วว่า ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งต่อไป เป้าหมายคือ ชัยนาท นครสวรรค์ โดยเฉพาะชัยนาท ที่ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย เจ้าของพื้นที่เป็นแกนนำกลุ่มมัชฌิมา การเลือกที่นี่เป็นการตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า “บิ๊กตู่” กำลังรัวกระสุนเป็นชุดๆ เพื่อชิงทำคะแนนทุกพื้นที่ที่มีนักการเมืองแนวร่วมตัวเองกุมฐานเสียงอยู่ หวังใช้คะแนนพวกนี้เป็นต้นทุน สู้กับพรรคการเมืองใหญ่

ยิ่งปลดล็อกช้าเท่าไหร่ ยิ่งมีเวลาให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้า เหนือกว่าบรรดาพรรคการเมืองที่ยังถูกโซ่ล่ามเอาไว้มากขึ้นเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น