ข่าวลึกปมลับ : สนช.คว่ำ กกต.โรดแมปไม่เลื่อน จับตา! ช็อตเด็ดทำเลือกตั้งขยับ

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ตอน สนช.คว่ำ กกต. โรดแมปไม่เลื่อน จับตา! ช็อตเด็ดทำเลือกตั้งขยับ



อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) 7คน โดนที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติคว่ำไป ล้มกระดานไปทั้งหมด ทั้งจากการสรรหาที่มีจำนวน5 คน และ2คนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โหมดต่อไปก็ต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งกันใหม่อย่างเป็นทางการกับการเฟ้นหา7กกต. อีกครั้ง

เมื่อสนช.แผลงฤทธิ์แบบนี้ สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปก็คือ การเลือกตัวกกต.รอบใหม่ ที่ทางคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จะส่งชื่อมาให้สนช. 7ชื่ออีกรอบ จะมีความยากต่อการกลั่นกรองให้ได้คนที่มีสเปคใช่ เพื่อไม่ให้ถูกตีตกไปอีก

และการที่พลเอกประยุทธ์ ยังคงมีอำนาจตามมาตรา44อยู่จะใช้ผ่าทางตันเรื่องกกต. ด้วยหรือไม่อย่างไร? ถ้าหากกระบวนการตามกติกาปกติไม่สามารถหาตัวกกต. ทั้ง7 คนได้ ซึ่งเรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้นเหมือนกับ

บนสมมุติฐานว่า หากไม่มีกกต.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ กกต.ชุดรักษาการตอนนี้ที่มีนาย ศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ โดยมีอำนาจเต็มที่ทุกอย่างในการจัดการเลือกตั้งจนถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและท้องถิ่น

และต่อให้ในช่วงกกต. ชุดใหม่ยังไม่มา และมี กกต.บางคนอาจต้องพ้นวาระ เพราะอายุครบ 70 ปี แต่พลเอกประยุทธ์ ก็ยังสามารถใช้มาตรา 44ต่ออายุให้ได้ เหมือนกับที่เคยทำมาแล้วตอนต่ออายุให้ผู้ว่าฯสตง.และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กับป.ป.ช.

ดังนั้น การมีหรือไม่มี กกต.ชุดใหม่เข้ามา จึงไม่มีปัญหาต่อโรดแมป และการจัดการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ หากกระบวนการสรรหา มีคนมาสมัครและผ่านการคัดเลือกจากกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ส่งชื่อมาให้ สนช.อีกรอบถ้าสุดท้าย ชื่อที่ออกมา ยังดี-เด่น-ดัง ไม่พอ สเปกไม่เทพพอ คสช.ไม่แฮปปี้ด้วย ก็อาจมีโอกาส ที่ จะมีผู้มีอำนาจ สั่งการให้ สนช. ลงมติ คว่ำอีกก็ได้ ไปตั้งต้นรอบสามใหม่ก็เป็นได้

แต่การเมืองช็อตสำคัญที่จะเป็นผลให้โรดแมปขยับออกไปแต่ๆหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

ร่างกฎหมายสองฉบับที่มีการทำความเห็นแย้งมาจากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและกรรมการการเลือกตั้ง จนนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วม3 ฝ่าย ซึ่งเมื่อกรรมาธิการพิจารณาเสร็จจะต้องส่งกลับไปที่สนช.พิจารณาอีกรอบ

ว่ากันว่า ให้จับตา สนช.ให้ดี อาจลงมติคว่ำร่างพ.ร.บ.ฉบับใดฉบับหนึ่งหรืออาจทั้งสองฉบับ!ด้วยเหตุผล ที่สนช.อาจยกมาอ้างว่า ไม่เอาด้วยกับสิ่งที่กรรมาธิการร่วมสามฝ่ายแก้ไขกลับมา ที่เปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมที่ผ่านสนช.ไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ตอนนี้ ก็มีการแก้ไข ปรับรื้อเนื้อหาบางประการที่ผ่านสนช.ไปบ้างแล้วเช่น ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.
ที่กรรมาธิการสามฝ่าย ไปตัดเรื่องการให้จัดมหรสพในช่วงหาเสียงเลือกตั้งออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มติสนช.เห็นชอบให้ทำได้

ขณะที่ร่างพ.ร.บ. เรื่องที่มาของสว. ก็หาข้อยุติไม่ได้ในชั้นกรรมาธิการร่วมสามฝ่าย ใน 3 ประเด็นใหญ่ คือ
1. การแบ่งกลุ่ม ส.ว.
2. วิธีการเลือกส.ว.
3.การแบ่งประเภทการสมัครส.ว.

ทำให้กรรมาธิการสามฝ่าย ต้องนัดลงมติชี้ขาดกันในบ่ายวันอังคาร ที่ 27 ก.พ. แวดวงการเมืองจึงมองว่า กระบวนการแก้ไขปรับรื้อร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ ที่เห็นแตกต่างกันทั้งสนช.-กรรมการร่างรัฐธรรมนูญและกรรมการการเลือกตั้ง

มีความเป็นไปได้ ที่สุดท้าย พอส่งกลับไปสนช.อีกครั้ง จะเกิด ใบสั่ง การส่งสัญญาณ ให้สนช.คว่ำหมด ถ้าสนช. เหี้ยนจริงคว่ำกฎหมายทั้งสองฉบับต้องไปนับหนึ่งใหม่ เท่ากับโรดแมปขยับออกไปหลังกุมภาพันธ์ปีหน้า แน่

จริงอยู่ว่า แม้ระดับแกนนำสนช.ไล่ตั้งแต่ ประธานสนช.-รองประธานสนช.และแกนนำสนช.สายทหาร ออกมาการันตี ว่า สนช.ไม่คว่ำร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าว เพราะไม่ใช่ทำกันง่ายๆ การจะคว่ำได้ ต้องใช้เสียงถึง 2ใน3ของจำนวนสนช. ซึ่งไม่ง่าย

รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ออกมาย้ำด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดว่า สนช.จะไม่มีการคว่ำ ดังนั้น หากสนช.ไปคว่ำ ก็ทำให้ เครดิตบิ๊กตู่ เสียหายหนัก

แต่ แต่ของแบบนี้ และ ณ สถานการณ์ตอนนี้ แม้ต่อให้เป็นคนพูดของหัวหน้าคสช. กระแสความไม่วางใจก็ยังมีอยู่ หวั่นว่าจะมีการคว่ำร่างกฎหมาย เพื่อยืดการเลือกตั้ง แม้โอกาสจะเกิดขึ้นยากก็ตาม