ข่าวลึกปมลับ : ผมพร้อมไป คือไม่พร้อม! สัญญาณ “บิ๊กป้อม”อยู่ต่อ

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ตอน ผมพร้อมไป คือไม่พร้อม! สัญญาณ “บิ๊กป้อม”อยู่ต่อ



มาคุยกันเรื่องฮ๊อตสุด กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศกร้าวว่าถ้าประชาชนไม่ต้องการพร้อมจะไป!?! “บิ๊กป้อม” พูดต่อหน้าสื่อมวลชนบนโพเดียม ฟังดูดีเหมือนไม่ยึดติดอำนาจ น่าปรบมือให้ แต่ผ่านมาไม่กี่วัน “วรรคทอง” ดังว่า ส่อว่าความหมายจะกลับกันไปเสียแล้ว

สำหรับโมเม้นท์นี้ ประชาชนคนไทยสนใจมีปฏิกิริยาต่อท่าทีของบิ๊กป้อมคึกคัก อาศัยช่องทางโซเชียลมีเดียช่วยกันส่งสัญญาณให้ “บิ๊กป้อม”เห็นความต้องการ แต่ตัวเลขที่แสดงออกมาแบบทิ้งห่างขาดลอย ไม่ได้เป็นที่ยอมรับ

โดยคสช.ก็มีช่องไปได้ ว่าข้อมูลจากกลุ่มโซเชียลมีเดียเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประเทศ ชี้วัดอะไรไม่ได้ ต่อไปใครไม่พอใจอยากให้อยู่ ก็ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการขับไล่ มันไม่แสตนดาร์ดพอ

ว่ากันไปอย่างนั้น แถมยังมีรูให้แฉลบไปได้อีกว่า คสช. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากรัฐประหาร จะไปหลังจากเสร็จภารกิจแล้ว วิธีการโหวตเอามาใช้ขับไล่กันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองคงไม่มีใครทำงาน

สัญญาณมันแสดงให้เห็นแล้วว่า“บิ๊กป้อม” ปักหลักอยู่ต่อ ไม่ได้ท้อใจจนจะประกาศวางมือ วางอำนาจ เหมือนปากพูด

ชัดเจนว่า กระแสกดดันยังทำอะไรพี่น้อง 3 ป. “ป้อม” พล.อ.ประวิตร “ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ “ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ ขบวนการ “3ป.” ยังดำเนินต่อไปยาวๆ

ไม่สนใครจะคิดอย่างไร เพราะตามเงื่อนไขสำคัญที่พักงาน “คีย์แมน” ไม่ได้ เพราะผลกระทบมันมาเยอะ
โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” คือ กุนซือหลักก่อนทำรัฐประหาร ถ้าขาด หัวเรี่ยวหัวแรงไปคงกระเพื่อมทั้งรัฐบาล
ลำพัง“บิ๊กตู่” อาจขายได้ในแง่ภาพลักษณ์ซื่อสัตย์สุจริต แต่เรื่องกองกำลังสนับสนุน วันนี้ส่วนใหญ่มาจาก “บิ๊กป้อม” แทบทั้งสิ้น

ทุกเรื่องไม่ว่าจะการบ้านการเมือง พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์จัดแจงให้ทั้งนั้น และด้วยคอนเนกชั่นของพี่คนนี้ที่ช่วยประคองมาโดยตลอด ถ้าขาดไปสักคน ในมิติด้านความมั่นคงบอกเลยว่า สะเทือน

เหตุผลที่ “บิ๊กตู่” ให้ “บิ๊กป้อม” คุม กระทรวงกลาโหม เพื่อกุมสภาพกองทัพ ก็เพราะรู้ตื้นลึกหนาบางนายทหารแต่ละคนเป็นอย่างดี สามารถเลือกใช้คนให้เหมาะกับงานและภารกิจ และเพื่อบาลานซ์ความรู้สึกให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ผสมปนเปกันไปทั้งสายขาวและสายดำ

ดังจะเห็นว่า ตั้งแต่ คสช.เข้ามากุมอำนาจ การแต่งตั้งในเหล่าทัพมักไม่ค่อยมีปัญหา คนที่ไม่พอใจก็ไม่กล้าแสดงออก เนื่องจากรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง

ในเรื่องภาพลักษณ์อาจสู้น้องชายอย่าง “บิ๊กตู่” ไม่ได้ แต่ในแง่“พระเดช” และ “พระคุณ” พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เหนือกว่ามาก

ถ้า “บิ๊กป้อม” ไขก๊อกจริงๆ สิ่งหนึ่งที่จะระส่ำระส่ายมากที่สุดคือ “กองทัพ” เพราะขาด “ตัวใหญ่” ไป จากที่เคยแถวตรงเป๊ะ มันจะเริ่มมีก๊ก มีกลุ่ม แสดงออกถึงความไม่พอใจต่างๆ มากขึ้น ที่สำคัญความหวาดระแวงเรื่อง “รัฐประหารซ้อน” จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

วงการตำรวจก็เช่นเดียวกัน เมื่อ “บิ๊กป้อม” ไร้ อำนาจโดยตรงในการแต่งตั้ง พวกนักวิ่งจะแปรเปลี่ยนทิศไปวิ่งทางอื่น กลับมาเละตุ้มเป๊ะเหมือนเดิม จนสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับ “บิ๊กตู่” นายตำรวจที่เคยอยู่กับขั้วอำนาจเก่าจะเล่นเกม ตีรวนมากขึ้น

ที่สำคัญถ้า “บิ๊กป้อม” ลาออกจริง การเป็นนายกฯ เทอมที่สองของน้องรักลำบากแน่ เพราะจากเดิมเซ็ตกันว่าจะให้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์นี่แหละคุมงานความมั่นคงต่อ แต่ถ้าออกไปรอบนี้ รอบหน้ากลับมาลำบากแน่ อย่าลืมว่าการลาออกเท่ากับการยอมรับว่าตัวเองทำผิดจริงทันที!

แล้วข้อหาเรื่องการปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือการแจ้งเท็จ มันเป็นข้อหาเดียวกับที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโดน มันจะถูกนำขึ้นมาสกัด “บิ๊กป้อม” ในการกลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง ด้วยวาทกรรมต่างๆนานา

จะเป็นบาดแผลให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปโจมตีขยายผลว่า ยังอยากจะให้รัฐบาลที่ก็ทุจริตไม่ต่างจากนักการเมืองกลับเข้ามามีอำนาจอีกหรือ สะท้านสะเทือนถึง “น้องตู่” ทั้งสิ้น

หาก“บิ๊กป้อม” จะลาออกจริงๆ ตามรูปการณ์ก็คงจะให้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเท่านั้น อย่างไรต้องให้มีอำนาจเอาไว้บ้าง โดยเฉพาะเก้าอี้รองหัวหน้า คสช. ไม่เช่นนั้นขาลอย ต่อรองกับใครไม่ได้

แต่งานด้านความมั่นคง จะยังอยู่ในมือพี่น้อง 3 ป. เหมือนเดิม เพราะไม่เคยไว้ใจใครอยู่แล้วนอกจากพวกตัวเอง จะเป็น “บิ๊กตู่” ที่ควบรมว.กลาโหมไป แล้วให้พี่รองอย่าง “บิ๊กป๊อก” ช่วยเกลี่ยงานมั่นคงที่พี่ใหญ่เคยดูเอาไปบ้าง เพื่อกุมสถานการณ์ให้ทั่วกระดานดังเดิม

ส่วนพี่ใหญ่หลบไปหลังฉาก สถาปนาตัวเองเป็น “ผู้จัดการ” คอยวางหมากเดินเกมอย่างที่ “ทักษิณ” ทำกับพรรคเพื่อไทย แม้ไม่มีอำนาจโดยตรง แต่ก็ใช้ผ่านน้องรักทั้งสอง พี่ใหญ่ยังเป็นคนชักใยการเมือง มีบารมีกุมอำนาจอยู่เหมือนเดิม