ข่าวลึกปมลับ : ใคร? รับส่วยเปิดไฟเขียว ค้าน้ำกามในอาบอบนวด

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 16 มกราคม 2561 ตอน ใคร? รับส่วยเปิดไฟเขียว ค้าน้ำกามในอาบอบนวด




ประเด็นร้อนๆเขย่าสังคมไทยให้หันมาสนใจปัญหาค้ามนุษย์อีกครั้ง จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กับชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และทหาร บุกเข้าตรวจค้นอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" ย่านพระราม 9 ที่มีการลักลอบค้าประเวณีเด็กอายุไม่ ต่ำกว่า 18 ปี เข้าข่ายการค้ามนุษย์

รวมทั้งประตานการทุจริตจองเจ้าหน้าที่รัฐ โดยพบบัญชีจ่ายส่วยจำนวนหลายเล่ม และหลักฐานการรับรองการใช้บริการฟรีของคนมีสีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งตำรวจและสรรพากร

หลังจากเกิดเหตุ ก็เป็นไปตามฟอร์ม พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งเด้ง 5 เสือสน.วังทองหลาง เจ้าของพื้นที่ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจบาล ถือว่าเป็น"พิธีกรรม"ตามธรรมเนียมปฎิบัติ ไม่ใช่การแก้ปัญหาตรงจุด และไม่เกิดประโชน์อันใด

เป็นการแก้ปัญหาเพียงแค่ลดกระแสสังคมที่กำลังจับจ้องถึงความบกพร่องที่ตำรวจปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิด การทำผิดเช่นนี้นอกจากตำรวจท้องที่ ซึ่งต้องรับผิดชอบแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรง อย่าง "กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์" หรือ "บก.ปคม." ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

เพราะ จะเห็นว่า ทุกครั้งเมื่อมีการบุกทลายสถานบริการที่มีการค้ามนุษย์ครั้งใด จะพบบัญชีส่วย บัญชีการดูแลรับรองเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากตำรวจท้องที่แล้ว ยังมีตำรวจ ปคม. เข้ามาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ด้วยทุกครั้ง การค้ามนุษย์ในขบวนการค้าน้ำกามจึงเป็นเชื้อร้ายที่ไม่ยอมตาย

กรณีอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" ที่เพิ่งทลายก็พบบัญชีส่วยก็มีชื่อคนอ้างเป็นคนเก็บเงินของ"ปคม."ปรากฎในบัญชีจ่ายส่วยรายเดือน รวมทั้งไปใช้บริการแบบเจ้าของสถานที่ดูแลค่าใช้จ่ายฟรี100%ด้วย แต่เชื่อว่าจะไม่มีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับ ตำรวจปคม.อีกตามเคย

ตำรวจปคม. รับแต่ชอบแต่ไม่รับผิด ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับทหาร ปปง. ปปท. และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจสอบสถานบริการร้านเดอะเบสต์ และร้านฮาเล็ม ย่านถนนอินทามระ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 18 ส.ค.ปีที่แล้ว

จนพบพนักงานหญิง สัญชาติลาวอายุ 16 ปี 1 ราย สัญชาติเวียดนาม 1 ราย ซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ปรากฎว่า มีเพียงตำรวจ 5 เสือ สน.บางซื่อเท่านั้นที่โดนเด้ง และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

หรือครั้งที่มีการบุกตรวจค้นจับกุมคนต่างด้าว ที่นาตารี อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก พบการกระทำความผิดหญิงค้าประเวณี และอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนมาก ตำรวจโรงพักห้วยขวางก็โดนเด้งยกโรงพัก เช่นเดียวกับผบก.น.1 ในขณะนั้นที่ต้องเข้ากรุ ตำรวจ ปคม. ซึ่งมีโพยรายชื่อรับส่วย รับผลประโยชน์ร่วมด้วย ก็ไม่ถูกดำเนินการใดๆ

แม้แต่ในช่วงที่มีขบวนการโรฮีนจา ในพื้นที่จ.สตูล ที่มีรายชื่อตำรวจทุกหน่วยเข้าไปเอี่ยวกับผลประโยชน์ จนมีการสั่งเด้งตำรวจกราวรูด ยุคที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร. ซึ่งมีตำรวจ ปคม. โดนเด้งถึง 6 นาย เป็นระดับ ผกก.2 ราย รองผกก. 2 ราย สารวัตร 3 ราย ใน 2 กองกำกับการ แต่ระดับสูงกว่าผู้กำกับไม่มีใครบาดเจ็บ

ถามว่าทำไม "ตำรวจปคม." ถึงไม่มีใครกล้าแตะ ไม่มีใครกล้าเอาผิด คำตอบก็คือทุกตำแหน่งในสังกัด ปคม.ล้วนไม่ธรรมดา แต่ละคนมีความใกล้ชิดขั้วอำนาจทั้งนั้น ดังนั้นทุกครั้งที่มีการจับกุมการค้ามนุษย์ จึงไม่ค่อยมีใครพูดถึงและไม่มีใครกล้าแตะตำรวจปคม. เพราะล้วนเป็น "เด็กนาย" ทั้งนั้น

จึงน่าคิดว่า ควรจะมีตำรวจปคม.อีกต่อไปหรือไม่ เพราะถึงมีก็ไม่ได้ทำให้การค้ามนุษย์ในประเทศไทยลดลงเลย

ปัญหาการค้ามนุษย์โดยล่อลวงหญิงและบังคับค้าประเวณีในอาบอบนวด หรือซ่องโสเภณี เป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไขการป้องกันและปราบปรามให้เจ้าหน้าของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เอาอำนาจไปแลกกับส่วยน้ำกามเหมือนเช่นเป็นอยู่

ธุรกิจอาบอบนวด ที่เป็นแหล่งค้าประเวณีเด็กหญิงและทำผิดกฎหมายค้ามนุษย์ ควรจะได้ระบการสอดส่องตรวจตราอย่างเข้มงวด จริงจังเสียที โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทหน้าที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ก็คือ เจ้าหน้าที่ของกทม. ที่มีอำนาจตรวจสอบและอนุญาตการใช้อาคารสถานที่ เกือบร้อยทั้งร้อย อาคารสถานที่ประกอบการของอาบอบนวดผิดแบบผิดกฎหมายทั้งนั้น

อาบอบนวดทำผิดต่อเรื่องการควบคุมอาคาร สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ในอำนาจของกทม. แต่เพียงผู้เดียว แต่ทำไมซ่องหรืออาบอบนวดในเมืองหลวงถึงยังเปิดให้บริการกันได้ อย่างท้าทายกฎหมายบ้านเมือง กทม.จะต้องให้คำตอบแก่สังคม ถ้าไม่รู้เห็นกับส่วยน้ำกาม ก็ต้องเช็คบิลอาบอบนวดที่ผิดกฎหมาย