MGR Online - ตำรวจระดมนักสืบมือดี 118 นาย ทำคดีประวัติศาสตร์ ล้างบางขบวนการสั่งล้มบอล เปิดเว็บแทงไม่อั้นแล้วนำเงินมาแบ่งกัน “พ.ต.อ.ไมตรี” รรท.ผบก.ป. แฉนายทุนรายใหญ่ระดับจังหวัด เช่าบ้านตั้งเซอเวอร์เชื่อมโยงต่างประเทศ ตบตาเจ้าหน้าที่ สั่งคอมมานโดลากคอมาดำเนินคดให้ได้
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการจับกุมตัวขบวนการล้มพนันบอล ว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนได้มอบให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ไปแล้วเพื่อความคล่องตัวในการสืบสวนสอบสวนขยายผล เพราะเป็นการทำงานในรูปของคณะทำงานที่แต่งตั้งโดย ผบ.ตร. แต่เลขคดียังคงเป็นของกองปราบปราม เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดต่อเนื่องหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของกองปราบฯ หลังรับทราบถึงพฤติกรรมของขบวนการคนร้ายแล้วก็ได้มีมาตรการปราบปรามกลุ่มนายทุนการพนันออนไลน์กลุ่มอื่นๆ ด้วย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนพบว่าโดยปกติกลุ่มเว็บพนันบอลจะใช้อุบายโดยการให้หญิงสาวหน้าตาดีมาโฆษณาตามสื่อโซเชียลมีเดียก่อนที่จะชักจูงบรรดานักพนันให้เข้าไปที่หน้าเพจของเว็บพนันออนไลน์ เพื่อเชิญชวนให้เข้าไปเล่นพนัน ในส่วนนี้กองปราบฯ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มีฐานข้อมูลอยู่แล้วซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังจับตา
พ.ต.อ.ไมตรี กล่าวต่อว่า วันนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป - กก. 6 บก.ป. และ กก.ปพ. หรือหน่วยคอมมานโดกองปราบฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศเพื่อหาข้อมูลจับกุมกลุ่มนายทุนการพนันมาดำเนินคดี สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มนายทุนพนันบอลนั้น จะมีการใช้จังหวัดใหญ่ๆ ในเมืองไทยเป็นที่ตั้งในการรับพนันออนไลน์ โดยจะเช่าบ้านพักอาศัยและจัดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทริก และโทรศัพท์เข้าไปในบ้านเพื่อรับข้อมูลการพนันและมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับต่างประเทศ ส่วนเซฟเวอร์จะตั้งอยู่ในต่างประเทศและยังมีการทำเซฟเวอร์สำรองเพื่อป้องกันการถูกจับกุมไว้อีกด้วย โดยคาดว่า แต่ละกองกำกับการจะรายงานผลการปฏิบัติงานมาในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการจับกุมผู้ร่วมขบวนการล้มบอลทั้ง 12 คนนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของ บก.สส.บช.น. ดำเนินการสืบสวนคดีนี้ในทางลับมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว กระทั่งพบว่ามีมูลความผิดที่สามารถดำเนินคดีได้ จึงได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 613/2560 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยระบุว่า ด้วยกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สืบสวนทราบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายล้มผลการแข่งขัน ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพในไทย และได้รับการประสานขอความร่วมมือในการสืบสนสอบสวนการล้มผลการแข่งขันกีฬาฟุตบอลจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งการสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มทุนการพนันร่วมกันดำเนินการโดยหวังผลประโยชน์จากการเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลด้วยวงเงินเดิมพันจำนวนมากโดยมีพฤติกรรมเข้าไปจูงใจ เสนอให้ รับว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินตอบแทนแก่นักฟุตบอลอาชีพ กรรมการอาชีพ ที่เป็นผู้เล่นและผู้ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ เพื่อให้ล้มผลการแข่งขัน
คำสั่งดังกล่าวระบุต่อว่า ทั้งนี้ หากสามารถติดต่อได้สำเร็จกลุ่มทุนการพนัน จะทุ่มลงพนันกับทีมฝ่ายตรงข้าม แล้วนำผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน พฤติการณ์เป็นการกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า โดยรวมกันกระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่องในการแข่งขันหลายนัด มีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกีฬาอาชีพหลายฝ่าย หลายกลุ่ม และเกี่ยวพันเชื่อมโยงกันในหลายพื้นที่ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 ได้มีการจับกุมตัว นายธีรจิตร สิทธิศุข ในความผิดฐานลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลพบหลักฐาน ว่า นายธีรจิตร มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการล้มบอล โดยติดต่อนักกีฬา ตำแหน่งผู้รักษาประตูของสโมสรฟุตบอลอาชีพแห่งหนึ่ง เพื่อให้ล้มการแข่งชัน ในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ซึ่งในการแข่งขันดังกล่าว นักกีฬาตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ได้รับการติดต่อลงแข่งขันด้วย โดยมีการเสนอผลประโยชน์ให้แต่ถูกปฏิเสธ กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของงการฟุตบอลไทย อันเป็นการบ่อนทำลายวงการกีฬาฟุตบอลไทย ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจ กระทำในรูปแบบขบวนการ ครอบคลุมหลายพื้นที่ คดีมีความยุ่งยากซับซ้อน เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง รวดเร็ว ยุติธรรม จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 11 (4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 7/2559 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 ประกอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบเร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา จึงแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยตำรวจมือดีทั้งนักสืบและผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนทั่วประเทศมาร่วมด้วยรวมมากถึง 118 นาย ซึ่งมาจากทั้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) สำนักงานกำลังพล และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 3, 4, 6, 8, 9 ขณะเดียวกัน ยังมีทีมสืบสวนและสอบสวนของ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตำรวจสากล เข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้วย ซึ่งคาดว่าจะให้ตำรวจสากลเป็นตัวกลางในการประสานงานกับตำรวจในต่างประเทศ เนื่องจากแนวทางสืบสวนเบื้องต้น พบว่า มีการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มทุนไทยกับกลุ่มทุนในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันล้มบอลในประเทศไทยครั้งนี้ด้วย
สำหรับรายชื่อตำรวจที่เป็นคณะทำงานในคดีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักสืบและมือสอบสวนสายตรงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อาทิ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายัญประเสริฐ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รรท.ผกก.ดส. พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รรท.ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รรท.ผบก.ตท. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปภัชเดช เกตุพันธุ์ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภูริทัต บุญช่วย สว.กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท. เป็นต้น