xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน รวบ 2 หัวโจก “บิ๊กโจ๊ก” คุมทัพเปิดยุทธการอินทรีทมิฬปราบผิวสี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. แถลงจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เฉิน เกา เฉิน ชาวไต้หวันตุ๋นเหยื่อโอนเงินแอบจ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ - เปิดยุทธการอินทรีทมิฬ กวาดล้างคนผิวสี บิ๊กโจ๊กคุมทัพปราบปราม

วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รรท. ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. รอง ผบช.ทท. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเฉิน เกา เฉิน ชาวไต้หวัน นายเฉิน สง หง ชาวไต้หวัน และพวกรวม 7 คน สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และมีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่มีพฤติการณ์โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หรือ เรียกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตนได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 683/2530 ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มี พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เป็นหัวหน้า และเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ ทั้งนี้ ในการจับกุมครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังของตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีระดับสั่งการด้วย

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้สร้างปัญหาให้กับประชาชนและกำลังระบาดไปทั่วประเทศ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลไปด้วย โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ในการปลอมหมายเลขโทรศัพท์ แล้วพยายามโทรศัพท์สุ่มโทรศัพท์เข้าไปติดต่อพูดคุยโน้มน้าวให้เหยื่อหลงกลรับสายเข้า อาทิ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขอตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารที่มักจะอ้างว่าคุณอาจพัวพันกับยาเสพติด หรือเป็นหนี้บัตรเครดิตต้องชำระในยอดพิเศษ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ภาษี หรือได้รางวัลชิ้นใหญ่จากต่างประเทศ แต่ต้องโอนเงินบางส่วนออกมาชำระภาษีก่อน และหากเหยื่อไม่ทำตามขั้นตอนก็ขู่จะอายัดเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อเอาไว้ทั้งหมด ให้รีบกดเงินสดออกมา หรือย้ายโอนเงินไปใส่อีกบัญชีธนาคารหนึ่งที่ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เตรียมเอาไว้ให้แล้ว จึงอยากฝากเตือนประชาชนไม่ให้หลงกล หรือตกเป็นเหยื่อ ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลหมายจับผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ 107 หมาย จับกุมได้แล้ว 82 หมาย และอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม 25 หมาย ซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด

อีกราย ตำรวจท่องเที่ยวเปิดยุทธการอินทรีทมิฬ (Black Eagle) โดยบูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 หน่วยสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบยาเสพติด ตำรวจนครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 40 จุด ในพื้นที่ กทม. สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 40 ราย จำแนกเป็นข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 6 ราย เป็นชาวโซมาเลีย 5 ราย ไนจิเรีย 1 ราย จับกุมข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ โอเวอร์สเตย์ จำนวน 11 ราย เป้นชาวกินี 1 ราย ซีเรีย 1 ราย ไนจิเรีย 1 ราย ปากีสถาน 6 ราย และ คองโก 2 ราย ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่า 90 วัน เป็นชาวกินี 1 ราย และข้อหาเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถาน ซึ่งรับบุคคลต่างด้าว ไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานหน้าที่ 1 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่กำชับให้กวดขันจับกุมชาวต่างชาติที่เข้าในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรม และมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องการก่ออาชญากรรม ทั้งขบวนการปลอมธนบัตร หรือ แก๊งเงินดำ ค้ามนุษย์ในลักษณะโสเภณีข้ามชาติ ยาเสพติด รวมทั้งมีพฤติกรรมเป็นแก๊งหลอกลวงแต่งาน (Romance Scam) ซึ่งการกวาดล้างจับกุมกวาดล้างจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น