MGR Online - ผบช.น.ระบุรู้ตัวมือโพสต์ภาพตึกเอียงย่านเพลินจิตแล้ว 1-2 ราย ชี้ทำไปเพราะความคึกคะนอง มีเจตนาที่ไม่สุจริตหวังให้เกิดความวุ่นวาย เตรียมเรียกมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เจ้าของอาคารสามารถฟ้องเอาผิดทางอาญาและแพ่งต่อผู้โพสต์ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียได้
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ สน.จรเข้น้อย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีมีผู้โพสต์ภาพและข้อความในโซเชียลมีเดียว่าอาคารโรสวู้ด แบงค็อก โฮเทล บริเวณแยกเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่กำลังก่อสร้างมีลักษณะเอียงเหมือนจะพังถล่มลงมาจนทำให้ประชาชนแตกตื่นว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.ลุมพินี ตรวจสอบผู้ที่โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลฯ ว่ามีผู้ใดเข้าข่ายบ้าง ล่าสุดพบแล้ว 1-2 รายที่โพสต์ข้อความมีเจตนาที่ไม่สุจริต เตรียมเรียกมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ในวันนี้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้เชิญวิศวกร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เจ้าของอาคาร มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ เช่น ความมั่นคงของตัวอาคาร การขออนุญาตสร้างรวมถึงผลกระทบที่ได้รับ
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำสำหรับผู้ที่โพสต์โดยสุจริต เป็นการติเพื่อก่อ หรือเตือนให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก็ไม่ต้องตื่นตระหนก ตำรวจจะไม่ดำเนินการ แต่จะเอาผิดต่อผู้ที่โพสต์ด้วยความคึกคะนอง มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย หรือสร้างเรื่องราวขึ้นมาทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบถึงผู้โพสต์ที่เข้าข่ายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างก่อนโพสต์ข้อมูลต่างๆ ต้องตรวจสอบให้ดี และอย่าโพสต์ด้วยความคึกคะนอง ทั้งนี้ทางเจ้าของอาคารดังกล่าว ยังสามารถฟ้องร้องทั้งทางอาญาและแพ่งกับผู้โพสต์ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียได้ด้วยเช่นกัน
พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ทะเลาะกันย่านซอยสามวา 25 ถนนสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ว่าตนได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวขณะนี้ทราบกลุ่มผู้กระทำความผิดแล้ว เป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาทกัน และได้ให้ทีมงานของ พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 ดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี ขอให้ผู้เสียหายสบายใจได้ ตนจะพยายามเร่งรัดสืบสวนจับกุมโดยเร็ว ยืนยันว่าภายใน 1-2 วันนี้จะเร่งรัดนำตัวมาให้ได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้รายงานว่าผู้ที่ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้เสียหายอยู่แล้ว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุส่วนหนึ่งก็อยู่ในซอยดังกล่าว โดยเหตุการณ์เกิดจากการจอดรถกีดขวางแล้วมีการมองหน้า ก่อนท้าทายกัน จากนั้นจึงมีการทะเลาะตามปรากฏในภาพวงจรปิด ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการทะเลาะวิวาทกันมาก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างการติดตามตัว
