xs
xsm
sm
md
lg

สหกรณ์คลองจั่นฟ้องหมิ่น “ไพบูลย์-ตัวแทนสมาชิก” ใส่ร้ายเจ้าหนี้ทำแผนฟื้นฟูหลอกลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ฟ้องหมิ่น “ไพบูลย์ นิติตะวัน” อดีต ส.ว. และตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์โจมตีเจ้าหนี้ฉ้อโกงและทำแผนฟื้นฟูหลอกลวง เบื้องต้นศาลรับคำฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้อง 23 เม.ย.ปีหน้า



วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยนายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และนายธรรมนูญ อัตโชติ สมาชิกสหกรณ์และเจ้าหนี้ เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยแยกฟ้องเป็น 2 สำนวน โดยคำฟ้องมีใจความสอดคล้องกันว่า เมื่อระหว่างวันที่ 26 พ.ค. ถึง 14 มิ.ย. 2560 จำเลยได้ใส่ความต่อสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น ทางสถานีโทรทัศน์ช่องไทยรัฐทีวี ช่องนิวส์ 1 สปริงนิวส์ และช่องอื่นๆ โดยเจตนาให้เสนอข่าวให้ผู้ชมเข้าใจผิดไปว่า สหกรณ์มีการดำเนินการที่ทุจริตฉ้อโกงประชาชน คอร์รัปชัน ฉ้อแล มีการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการโดยไม่สุจริต เป็นแผนหลอกแผน บ่ายเบี่ยง และบิดเบือน เป็นการใส่ความสหกรณ์ ด้วยความเท็จทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง เบื้องต้นศาลได้รับฟ้องเป็นคดีดำที่ 2576/2560 และ 2577/2560 ตามลำดับ และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 เม.ย. 2561

นายประกิตกล่าวภายหลังยื่นฟ้องว่า เนื่องจากทั้งสองคนให้สัมภาษณ์ใส่ความสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทางทีวีช่องต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหาย กระทบต่อสมาชิกและเจ้าหนี้สหกรณ์เครดิตฯ เข้าใจผิด ว่าสหกรณ์ดำเนินการไปผิดกฎหมาย ถ้าเราไม่ฟ้องเราจะไม่พิสูจน์ความจริงได้ว่าที่เขากล่าวหาความจริงคืออะไรขอให้ศาลพิจารณาให้ความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้เคยพูดคุยทำความเข้าใจกับนายธรรมนูญหลายครั้ง เพราะเป็นทั้งสมาชิกและเจ้าหนี้

ส่วนนายไพบูลย์เป็นคนนอกไม่เกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตฯ เคยพบกันมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเคยแนะนำว่าให้คุยกันเพื่อลดความขัดแย้ง จากนั้นเคยทำงานประสานงานกันแต่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการแก้ไขปัญหาสหกรณ์เครดิตฯ ซึ่งทั้งสองคนให้ข่าวสื่อมวลชนในลักษณะที่ทำให้สหกรณ์เสียหาย เช่นกล่าวหาว่าฉ้อโกงและแผนฟื้นฟูฯ เป็นแผนที่หลอกลวง ไม่สามารถปฏิบัติได้ทำให้สมาชิกและเจ้าหนี้เสียหาย ทั้งนี้เราถือว่าแผนฟื้นฟูฯ นั้นถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย เพระได้รับการรับรองเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ร้อยละ 80 ศาลก็สั่งว่าแผนดังกล่าวสามารถใช้ฟื้นฟูกิจการได้ ที่ผ่านมาเราก็ปฏิบัติไปตามแผนฟื้นฟูฯ ยังไม่มีการกระทำใดที่จะเป็นการเบี่ยงเบนหรือไม่ทำตามแผน ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่อายัดไว้นั้น ตอนนี้เราได้รวบรวมทรัพย์สินของกลางไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำออกมาขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินมาคืนให้สมาชิกได้เพราะติดขัดที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้อายัดไว้ อ้างว่าอายัดไว้ตรวจสอบเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน เราอยากให้ดีเอสไอคืนทรัพย์สินที่อายัดไว้ เพราะปลายปีนี้สหกรณ์อาจจะไม่สามารถใช้เงินคืนแก่สมาชิกได้ จึงเป็นความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์และเจ้าหนี้ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง











กำลังโหลดความคิดเห็น