ป.ป.ส.จับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ แก้ไขปัญหายาเสพติดระดับหมู่บ้าน

MGR Online - สำนักงาน ป.ป.ส.ลงนามความร่วมมือเครือข่ายเกษตรกรอาสาพัฒนาประชารัฐ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน

วันนี้ (24 พ.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) พร้อมด้วยนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบนโยบายความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนตามแนวทางประชารัฐ ให้แก่สมาชิกสภาเกษตรกรและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ ศอ.ปส. ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน ผู้แทนกองทัพภาคที่ 1 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภาค 2 และภาค 7 ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ และ สมาชิกสภาเกษตรกร กว่า 600 คน

นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เครือข่ายเกษตรกรเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับปัญหาและรู้ปัญหา สามารถให้ความช่วยเหลือ เฝ้าระวัง และป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ได้ สำนักงาน ป.ป.ส.จึงร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติร่วมมือในการเสริมสร้างองค์ความรู้ในเรื่องยาเสพติดให้กับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกร ซึ่งบทบาทของเครือข่ายเกษตรกรในแต่ละพื้นที่จะเป็นกลไกที่สำคัญในการบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัดและอำเภอในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม โดยในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมฯ ไปแล้วจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย. 2559 ณ จังหวัดลำปาง จำนวน 161 คน รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค. 2559 ณ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 387 คน และรุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. 2559 ณ จังหวัดสงขลา จำนวน 379 คน

นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดอบรมฯ ครั้งนี้นับเป็นรุ่นที่ 4 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 พ.ค. 2560 มีสมาชิกสภาเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 520 คน วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกสภาเกษตรกร มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษและพิษภัยยาเสพติด มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตน ชักชวน จูงใจ ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา การติดตาม ช่วยเหลือ ดูแลผู้ผ่านการบำบัดรักษา รวมถึงการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน และเป็นเครือข่ายในการประสานงานสนับสนุนการดำเนินการต่างๆ กับภาครัฐได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างกลไกภาคประชาชนในบริบทของเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับว่าที่ร้อยตรี สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้น

นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และนายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับแนวทางการดำเนินงาน “ประชารัฐ” ซึ่งการดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ จะต้องมีลักษณะการสื่อสารแบบสองทาง (Two way Communication) โดยเฉพาะการสื่อสารจากล่างขึ้นบน ภาครัฐจึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน ซึ่งจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ปัญหายาเสพติด โทษพิษภัยต่างๆ รวมทั้งแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

“นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส.ได้ร่วมมือกับสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ จัดการฝึกอบรมหลักสูตรเครือข่ายเกษตรกรอาสาพัฒนาประชารัฐขึ้น เนื่องจากสภาเกษตรกรแห่งชาติเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่มีโครงสร้างที่เกิดจากการคัดเลือกตั้งแต่ระดับชาติ จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านชุมชน ซึ่งทำให้สามารถลงไปทำงานในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเพื่อสร้างกลไกภาคประชาชนในบริบทของเกษตรกรทั่วประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถเป็นแกนนำในการประสานความร่วมมือในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้ง ประสานให้ความรู้ความเข้าใจถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติดแก่เกษตรกรในหมู่บ้านชุมชน ส่งผลให้เกิดการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัดและอำเภอ” นายสุวพันธุ์กล่าว