ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดเป็นประกายไฟลุกไหม้โกดังเก็บของเก่า เจพาณิชย์ ซ.พระราม9 เสียหายเกือบทั้งหลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ร.ต.อ.ไชยา บัวมาศ รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของเก่า และมีผู้ติดค้างภายใน บริเวณซอยพระราม 9 59 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม มูลนิธิร่วมกตัญญู สำนักป้องกันและรถบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 10 คัน ทหารจากร้อย รส. ที่ 1 ม.1 รอ. จำนวน 5 นาย
บริเวณดังกล่าวอยู่ข้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม เดอะแฮททริค (The hattrick) และรพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บของเก่า ชื่อ เจพาณิชย์ เลขที่ 7734 มีแผ่นสังกะสีทำเป็นรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ 500 ตร.ว. เป็นโรงเก็บของเก่าแบบเปิดโล่งชั้นเดียว ภายในมีวัสดุติดไฟง่ายและไวไฟ อาทิ ขวดพลาสติก กระดาษ ถังแก๊ส ถังแก๊สเชื่อม เป็นต้น เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ช่วยเหลือพร้อมอพยพผู้ติดภายในได้ครบทั้ง 13 คน พร้อมทั้งขนย้ายถังแก๊ส และถังแก๊สเชื่อมออกมาจากที่เกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะมาตัดกระแสไฟ จากนั้นเจ้าหนัาที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำรอบทิศทางเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนข้างเคียง โดยใช้เวลา 40 นาที เพลิงสงบลง จากการตรวจสอบพบว่าโกดังดังกล่าวถูกไฟไหม้วอดเกือบทั้งหลัง
จากการสอบถาม นายพีรธัช หงิมจั่น อายุ 51 ปี เจ้าของโกดังเจพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนอนหลับในบ้านพักซอยหัวหมาก 9 ลูกจ้างได้โทรศัพท์มาหาว่าไฟไหม้โกดัง จึงรีบมาที่เกิดเหตุ และสอบถามทราบว่าขณะลูกจ้างทำงานอยู่นั้น เห็นสะเก็ดไฟช็อตบริเวณเสาหน้าโกดังที่มีขวดพลาสติกกองอยู่จำนวนมาก จึงพยายามช่วยกันดับ แต่ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงวิ่งมาทางด้านหลังปีนรั้วกันออกมา โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตน
ทั้งนี้ โกดังแห่งนี้เปิดมากว่า 10 ปี เมื่อปี 59 เคยเกิดไฟไหม้แต่เล็กน้อย จนมาครั้งนี้ไฟโหมไหม้เกือบทั้งหลัง ตนมีลูกจ้างอยู่ 7 คน ส่วนใหญ่อยู่กันเป็นครอบครัว ให้พักอาศัยห้องเช่าหน้าโกดัง โดยตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร ส่วนมูลค่าความเสียหายตนยังไม่ได้ประเมิน
ร.ต.อ.ไชยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า สาเหตุเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ต้องสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้ามาตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
