xs
xsm
sm
md
lg

แสบทะลวงโลก “โชกุน” เจออีกคดี “ฉ้อโกง” ตุ๋นแม่เด็ก 9 ขวบถ่ายแบบเรียกเงิน 2.2 แสนเชิดหนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - พรุ่งนี้ ปปง.ประสาน ตร.กองปราบฯ ลุยสอบเส้นทางการเงิน “โชกุน” พบอีก 30 คนร่วมขบวนการแหกตาทัวร์ญี่ปุ่น เตรียมเชิญตัวให้การ เจออีกหมายจับติดตัวพื้นที่ สน.ห้วยขวาง แสบลวงโลกหลอกหาเหยื่อเด็ก 9 ขวบถ่ายแบบ ก่อนเรียกเงินแม่เด็ก 2.2 แสนค่าดำเนินการแล้วเชิดหาย

วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.กล่าวว่า หลังจากช่วงเช้า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เดินทางมาเพื่อสอบปากคำ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน เป็นการสอบสวนในประเด็นติดตามเส้นทางการเงินเป็นหลัก เพราะคดีนี้จำเป็นต้องเน้นตรวจสอบร่องรอยทางการเงินที่คาดว่าผู้ต้องหาจะนำเงินไปเก็บไว้ หรือนำไปซื้อแปลงเป็นทรัพย์สิน โดยคดีนี้มีลักษณะการหลอกลวงคล้ายกับคดีของบริษัท ยูฟัน ที่จะต้องสืบหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดเพื่อนำมาดำเนินคดี โดยวันพรุ่งนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเข้ามาตรวจสอบร่องรอยทางการเงิน ในเวลา 10.00 น.ว่ามีการโยกย้ายหรือแปรสภาพเงินไปที่ใดบ้าง

พล.ต.ต.สุทินกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 30 คนนั้น ขณะนี้มีข้อมูลครบถ้วนแล้วว่าเป็นใครบ้าง แต่ต้องดูความชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ในขั้นใด และมีเจตนาเพียงใด หากเพียงชักชวนไปเที่ยวด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นก็ย่อมแตกต่างจากผู้ที่เจตนาก่อเหตุ ยืนยันไม่เหมารวมว่าจะเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด จะต้องตรวจสอบเป็นรายบุคคล

ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ส่วนเครือข่ายของโชกุนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ มทบ.11 อีก 8 คนนั้น ได้ส่งพนักงานสอบสวนไปร่วมสอบสวน โดยจะตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงหรือไม่ หากพบมีความเชื่อมโยง ก็จะดำเนินคดี ส่วนเรื่องการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายนั้น ต้องรวบรวมเงินของโชกุนให้ได้ก่อน โดยขณะนี้ทราบว่า ปปง.อายัดเพียงเงินสดในบัญชีประมาณ 3 ล้านบาท และยังไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งนี้เมื่อได้ทรัพย์มาครบแล้วจะนำมาเฉลี่ยกับจำนวนผู้เสียหายที่มาแจ้งความ ส่วนกรณีที่มีชื่อนักแสดงรุ่นเก่าปรากฏในทริปไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ด้วยนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล อาจเป็นการแอบอ้างนำชื่อมาโปรโมตเท่านั้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ต้องเชิญตัวมาสอบถามก่อนยังไม่ปักใจว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดหรือไม่ สำหรับกรณีที่มีชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหายด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่ามาแจ้งความแต่อย่างใด

พล.ต.ต.สุทินกล่าวด้วยว่า นอกจากหมายจับที่ทางกองปราบปรามมีนั้น ทราบว่าโชกุนและนายก้องศรัณย์ แสงประภา ถูกศาลออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงแล้ว โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีเก่าเมื่อปี 2559 ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อ สน.ห้วยขวางไว้ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวซินแสโชกุนไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในเวลา 10.00 น. โดยท้ายคำร้องคาดว่าจะคัดค้านการประกันตัว และจะประสาน พ.ต.อ.อาคม รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง อายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.อาคม รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ศาลแขวงพระนครเหนือได้ออกหมายจับ น.ส.ภวิศ ภูริภัทร์เมฆินทร์ และนายก้องศรัณย์ แสงประภา ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 215-216/2560 ลงวันที่ 13 เมษายน 2560 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ภวิศ, น.ส.พสิษฐ์ และซินแสโชกุน คือบุคคลเดียวกัน โดยพฤติการณ์นั้นเกิดเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซินแสโชกุนได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าขอติดต่อลูกของผู้เสียหายอายุประมาณ 9 ขวบ เพื่อไปถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีค่าดำเนินการเบื้องต้นเป็นค่ามัดจำเป็นเงิน 2.2 แสนบาท เมื่อโอนเงินไปแล้วซินแสโชกุนก็พาผู้เสียหายและลูกผู้เสียหายไปประเทศเกาหลี แต่กลับไม่สามารถถ่ายแบบได้ โดยอ้างว่าเป็นเพราะติดขัดเรื่องทีมงาน ก่อนจะรับปากว่าเมื่อกลับประเทศไทยจะโอนเงินคืนให้ทั้งหมด แต่เมื่อกลับถึงไทยแล้วกลับติดต่อซินแสโชกุนไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางไว้ ก่อนจะพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนเดียวกันกับที่ลอยแพผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง

มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย ทั้งในส่วนที่เดินทางมาที่กองปราบปราม และแจ้งความที่อื่นๆ โดยในส่วนการสอบปากคำที่กองปราบปรามขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 200 ราย โดยขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมยอดผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น