xs
xsm
sm
md
lg

“พระสนิทวงศ์” ล่องหน ส่ง “พระมหาทศพร” จ้อแทน หลังดีเอสไอฮึ่มเจอเป็นจับ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ไร้เงา “พระสนิทวงศ์” ส่ง “พระมหาทศพร” จ้อแทน หลังดีเอสไอเตรียมรวบหากพบตัว ตามมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปลั่น ระบุไม่ได้ออกมาแถลงข่าวทุกภายในวันเหมือนทุกวัน มอบให้แจงสื่อแทนในฐานะ จนท.สำนักสื่อองค์กร ชี้ต่างชาติให้ความสำคัญพระไทยโดนละเมิดสิทธิ

วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. บริเวณถนนเลียบคลองแอนด์ ประตู 5 วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พระมหาทศพร ปุญญงฺกุโร หัวหน้ากองภาพลักษณ์ออนไลน์ เปิดเผยกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา เชียงแรง จากโรคหอบว่า พระมหานพพร ปุญฺญชโย ผช.สำนักสื่อสารองค์กร ติดต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเวลาประมาณ 13.31 น. หลังจากที่ทราบว่าเสียชีวิตแล้วและเป็นชุดสุดท้ายที่ตามไปเพื่อช่วยประสานงานความเรียบร้อย ซึ่งไลน์ของผู้เสียชีวิตที่สามารถติดต่อได้นั้นเพราะมีการแจ้งขอยาพ่นในช่วงแรก เนื่องจากอยู่พื้นที่หลังวัดพอมีสัญญาณอยู่บ้างแต่ก็ขาดๆ หายๆ และถ้าในพื้นที่วัดติดต่อยากมาก ส่วนใหญ่ติดต่อกันไม่ได้ โดยหน่วยกู้ชีพ 1669 ได้รับการติดต่อเป็นช่วงหลังจากที่หน่วยกู้ชีพรัตนเวชของวัดไม่สามารถไปได้ เนื่องจากติดด่านและประตูทางออกต่างๆ ถูกปิด พร้อมขอยืนยันว่าที่พักของผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตาม ม.44 อีกทั้งยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ย่อมทราบอาการป่วยของตนเองจึงได้ร้องขอยาพ่นจากเพื่อนเพื่อมาระงับอาการที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เสียเวลาติดด่านเจ้าหน้าที่เพราะเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตาม ม.44 ต้องผ่านถึง 5 ด่าน ประกอบกับถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพราะ ม.44 จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิต

พระมหาทศพรกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นนั้น พระธัมมชโยถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินว่าผิดหรือถูก โดยศิษยานุศิษย์ได้ตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์ เท่ากับจำนวนเงินที่นายศุภชัยนำมาบริจาค จำนวน 1,057 ล้านบาท และนอกเหนือจากศิษย์วัดพระธรรมกายแล้ว สหกรณ์ก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากใครอีกเลย มิหนำซ้ำดีเอสไอและอัยการอายัดเงินที่ควรคืนสหกรณ์ฯ 3,800 ล้านบาท และทราบมาว่าสหกรณ์ฯ เตรียมฟ้องอาญาหากยังไม่ยอมคืนเงินที่อายัดไป ซึ่งรัฐบาลบอกจะช่วย 10,000 ล้านบาท ทุกวันนี้ยังไม่มีเงินช่วยเหลือสหกรณ์เลย แต่เมื่อสหกรณ์ได้รับการเยียวยาจากศิษย์วัดแล้ว ความเสียหายของสหกรณ์ในส่วนที่นายศุภชัยนำมาบริจาคให้หลวงพ่อจึงหมดไปแล้ว

“ปัจจุบันรัฐบาลทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 48 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 3 ล้าน เพื่อนำกองกำลังมาตามจับพระธัมมชโย โดยอ้างเหตุความเสียหายของสมาชิกสหกรณ์ซึ่งไม่เกี่ยวกับพระธัมมชโยแล้ว การดำเนินการเช่นนี้รัฐบาลมีเจตนาแอบแฝงอะไรหรือไม่ ทำเพื่อสมาชิกสหกรณ์หรือเพื่อเจตนาแอบแฝงอื่นๆ ขอให้รัฐบาลช่วยให้คำตอบด้วย และทำไมไม่เอางบประมาณกว่า 48 ล้านบาทไปช่วยสมาชิกสหกรณ์ที่กำลังลำบากซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์บ้าง หรือมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจมีหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองและประชาชน แต่ทุกวันนี้กองกำลังจำนวนมากที่มาปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชน และยังปิดล้อมรถพยาบาลที่จะเข้าไปช่วยเหลือคนป่วย จนกระทั่งต้องมาเสียชีวิตจากคนป่วยกลายเป็นคนตาย นี่หรือช่วยปกป้องประชาชน โดยอ้างเหตุผลมาจับพระธัมมชัยโย”

พระมหาทศพรกล่าวต่อว่า ส่วนความเคลื่อนไหวจากองค์กรต่างประเทศ กรณีการประชุมองค์กรพุทธโลก ณ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ขอแจ้งว่า กรณีวัดพระธรรมกายไม่มีในวาระการประชุมปกติ แต่เป็นวาระจรที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอธิปรายอย่างเร่งด่วนและกว้างขวาง เนื่องจากวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นองค์กรพุทธไทยที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ขณะนี้ทางกระทรวงต่างประเทศของประเทศอังกฤษ Foreign and Commonwealth Office ได้ตอบรับเรื่องของวัดพระธรรมกายแล้ว และแจ้งว่าจะนำเรื่องนี้ส่งต่อให้ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งท่านเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ Alok Sharma MP จะได้เข้าพูดคุยเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพทางการนับถือศาสนา กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อไป รวมถึงสมาคมชาวพุทธทวีปยุโรปยืนยัน มีการยื่นหนังสือร้องเรียน ยูเอ็น กรณีวัดพระธรรมกายถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จากรัฐบาลที่ใช้ ม.44 ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่องค์กรสหประชาติ

พระมหาทศพรกล่าวเพิ่มว่า วัดและประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกคุกคามและเดือดร้อนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาตามหมายค้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาภายในพื้นที่วัด เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ สร้างความหวาดกลัวแก่พระสงฆ์ สามเณร ลักษณะคล้ายผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น เข้าพื้นที่ภายในวัดในยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตัดสายสัญญาณ ถอดอุปกรณ์และทำลายกล้องวงจรปิด ที่ทางวัดและมูลนิธิติดตั้งไว้เพื่อความปลอดภัยโดยรอบบริเวณ รวมถึงการจับกุมพนักงานรักษาความปลอดภัยโดยไม่มีสาเหตุ สรุปทรัพย์สินที่ถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจทำลาย กล้องประตู 8, กล้องประตู 7, กล้องประตูรั้วสังกะสีข้างประตู 1, กล้องประตู 1 ติดริมถนนคลองสาม, กล้องมุมอาคารปั้นพระบริเวณพื้นที่ 100 ไร่ และจานรับสัญญาณ ตรงข้ามประตู 4 เหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สมบัติของพระพุทธศาสนา เป็นทรัพย์สมบัติที่เกิดจากความศรัทธาของญาติโยม แต่ถูกทุบทำลาย และยึดไปโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารได้ขับไล่ให้พนักงานของวัดออกจากอาคารที่พักในบริเวณพื้นที่ 150 ไร่ แต่ทางวัดปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงกลับไปใช้ห้องปฏิบัติธรรมซึ่งเคยยึดไว้แล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ผู้ค้า จำนวน 60 กว่าราย บริเวณเมืองแก้วมณี และศูนย์อาหาร โดยเฉพาะชุมชนเมืองแก้วมณีซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่วัด แต่กลับอยู่ในเขตควบคุมพิเศษตาม ม.44 จึงได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอให้ค้าขายได้เนื่องจากถูกปิดมาเป็นวันที่ 16 แล้ว
















กำลังโหลดความคิดเห็น