MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส.ออกหนังสือสั่งยึดทรัพย์สิน “บอย” เครือข่ายไซซะนะ 12 รายการ ตาม พ.ร.บ.ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ไว้ตรวจสอบ รวมลัมบอร์กินี “เบนซ์ เรซซิ่ง” สัปดาห์หน้าเชิญสอบปากคำเพิ่ม
วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. เปิดเผยถึงกรณีที่ บช.ปส.ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีพบรถยนต์หรูยี่ห้อลัมบอร์กินี กัลลาร์โด สีส้ม และรถเบนท์ลีย์ สีดำ ทั้งสองคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ที่อาคารจอดรถของคอนโดมิเนียมย่านประชานิเวศน์ 1 ว่า รถยนต์หรูสองคันดังกล่าวเป็นรถที่ทางตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) ยึดมาจากการกระทำความผิด โดยได้เช่าพื้นที่ดังกล่าวไว้จอดรถระหว่างการรอผลการตรวจพิสูจน์ที่มาที่ไปของรถ มีหนังสือเอกสารถึงศุลกากรอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ จึงจำเป็นต้องหาที่จอดรถที่หลบแดดหลบฝนได้เพราะรถมีราคาสูง ทั้งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาว สปป.ลาว กับพวก ซึ่งเป็นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้หรือไม่
ส่วนการสอบสวนนายณัฐวัฒน์ ห่วงมณี หรือเอก บูโน่ เจ้าของเต็นท์รถยนต์หรูย่านพระราม 3 หลังเข้าให้ปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา (8 ก.พ.) นั้นเป็นการสอบปากคำในประเด็นการจำหน่ายรถลัมบอร์กินีของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง เบื้องต้นพบว่าเป็นการซื้อขายรถอย่างถูกต้อง ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่จะมีการเชิญนายอัครกิตติ์เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนบุคคลอื่นขณะนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาสอบเพิ่มเติม
ทั้งนี้ รถยนต์ลัมบอร์กินีของนายอัครกิตติ์จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการตรวจสอบถึงจะทราบที่มาที่ไปของรถ เพราะต้องประสานการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ศุลกากร ให้ช่วยตรวจสอบการนำเข้ามาว่า ถูกต้องหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (8 ก.พ.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีหนังสือคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย หนึ่งในผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ จำนวน 12 รายการ ในจำนวนนี้มีรถยนต์ลัมบอร์กินีของนายอัครกิตติ์รวมอยู่ด้วย โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 เพื่อให้คณะกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป