xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบฯ โชว์ผลงานจับสารพัดโกง รวบแก๊งตกทอง-พนันกำถั่ว ได้ผู้ต้องหากว่า 40 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผบช.ก.แถลงผลปราบปรามสารพัดโกง ช่วง 26-28 เม.ย.ที่ผ่านมา รวบแก๊งขายทองปลอม-ตกโฉนดที่ดิน-พนันกำถั่วรายใหญ่ภาคใต้ ได้ผู้ต้องหากว่า 40 ราย พร้อมจัดนิทรรศการศึกษาพฤติการณ์ของกลุ่มต่างๆ

วันนี้ (28 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.สมพงศ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาการ ผกก.ปพ.บก.ป. แถลงผลการปฏิบัติการตามยุทธการปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะทางคดีสารพัดโกง ภายหลังมอบหมายให้ บก.ป.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลสืบสวนจับกุมอาชญากรรมเฉพาะทาง ติดตามจับกุมคดีที่มีการกระทำผิดในลักษณะเป็นองค์กร เป็นขบวนการที่กระทำผิดต่อเนื่อง ซึ่งเกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ โดยออกปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 26-28 เมษายน 2559

ทั้งนี้ สำหรับผลการปฏิบัติตามยุทธการดังกล่าวนั้น ทาง กก.1-6 และ กก.ปพ.บก.ป.สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีต่างๆ ประกอบด้วย แก๊งตกทองและหลอกขายทองปลอม จับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 6 ราย จากจำนวนหมายจับรวม 12 หมายจับ, แก๊งตกโฉนดที่ดิน ตกพระ และค้าธนบัตรสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปลอม จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย จำนวน 10 หมายจับ, แก๊งหลอกลวงแรงงานไปทำงานยังต่างประเทศ จับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 4 ราย จากจำนวน 10 หมายจับ, แก๊งหลอกลวงขายสินค้าและบริการอื่นๆ ทางอินเตอร์เน็ต จับกุมผู้ต้องหา 11 ราย จาก 12 หมายจับ และแก๊งหลอกลวงเล่นการพนันกำถั่ว หรือที่เรียกว่า “แก๊งจูงหมู” หรือ “แก๊งจูงควาย” โดยจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 11 ราย จากจำนวน 33 หมายจับ รวมผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งต่างๆ ทั้งสิ้น 40 คน จากทั้งหมด 79 หมายจับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีที่มีการจับกุมไว้ได้นั้นส่วนใหญ่เป็นความผิดส่วนตัว ทางชุดจับกุมจึงได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งไปดำเนินคดียังท้องที่ต่างๆ จึงมีการควบคุมตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวเพียง 10 ราย จากจำนวน 37 หมายจับ ซึ่งการแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้มีการจัดซุ้มนิทรรศการแสดงผลการจับกุมของกองกำกับการต่างๆ ในสังกัด บก.ป.ภายในห้องประชุมปราศจากศัตรู ชั้น 3 บก.ป.เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการศึกษาพฤติการณ์ของกลุ่มแก๊งต่างๆ อีกด้วย

ในส่วนของคดีที่น่าสนใจ อาทิ การจับกุมแก๊งตกทอง โดยทาง พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.มะลิษา รอดเอี่ยม อายุ 36 ปี มีหมายจับติดตัว 29 หมายจับ, น.ส.ยุพิน ภาคทรัพย์ อายุ 43 ปี มีหมายจับอยู่ 19 หมายจับ, น.ส.สายสุนีย์ ภาคทรัพย์ อายุ 44 ปี มีหมายจับติดตัว 9 หมายจับ, น.ส.กนกพร ใจการุณ อายุ 44 ปี มีหมายจับติดตัว 7 หมายจับ และนางสกุลรัตน์ กระต่ายเพชร อายุ 47 ปี มีหมายจับติดตัวอยู่ 6 หมายจับ

สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำผิดนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดจะแบ่งหน้าที่กันออกหลอกลวงเหยื่อโดยนั่งรถยนต์ตระเวนออกหาเหยื่อที่สวมใส่เครื่องประดับมีค่า เมื่อพบก็จะให้หนึ่งในผู้ต้องหาทำทีเข้าไปนำพระเลี่ยมทองปลอม 1 องค์เข้าไปหลอกขายพระดังกล่าว ใช้วิธีพูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อตายใจ โดยผู้ต้องหารายอื่นก็จะเป็นหน้าม้าคอยยุยงให้เหยื่อรีบรับซื้อ จากนั้นคนร้ายอีกคนก็จะทำทีเป็นเจ้าของร้านทองระบุว่าพระเครื่องเลี่ยมทองนั้นเป็นของจริง หากรับซื้อไว้จะได้กำไร แต่เมื่อเหยื่อไม่มีเงินสดก็จะหลอกให้เอาสร้อยทองมาแลกกับพระดังกล่าวไป หลังจากหลวงลวงสำเร็จก็จะพาเหยื่อไปปล่อยทิ้งข้างถนนแล้วหลบหนีไป พบว่ามีการกระทำผิดมาแล้วหลายครั้ง

อีกคดี พ.ต.อ.ภูมินทร์ พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุม นางอรุณี ทั่งทอง อายุ 71 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และ น.ส.เบญจพร ทือเกาะ ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยมีพฤติการณ์ร่วมกับพวก ทำทีเข้าไปติดต่อผู้เสียหายว่าจะขอเช่าที่ดินเพื่อตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ มีการทำสัญญาเช่าเป็นรายปี แต่ภายหลังกลับอ้างว่าต้องไปเซ็นสัญญาดังกล่าวกับเจ้านายที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะชักชวนให้เล่นพนันกำถั่ว แรกๆ ก็จะให้เหยื่อเล่นพนันได้เพื่อให้ตายใจ จากนั้นจึงเสียพนันจนหมดตัว ซึ่งมีการออกกระทำความผิดในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ สร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า คดีประเภทเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องใกล้ตัวพี่น้องประชาชน สร้างความเสียหายอย่างมาก ทาง บช.ก.เล็งเห็นความสำคัญจึงมอบนโยบายให้แก่ตำรวจทุกกองบังคับการในสังกัด เร่งสืบสวนจับกุมโดยเปิดยุทธการปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะทางคดีสารพัดโกง ผลการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น