ASTV ผู้จัดการ - สาวใหญ่เข้าแจ้งความหลังถูกคนร้ายหลอกว่าสามารถฝากเข้าทำงานในหน่วยงานชื่อดังได้ จนเป็นเหตุให้สูญเสียเงินกว่าหนึ่งล้าน ตำรวจตรวจสอบพบคนร้ายเคยก่อคดีลักษณะนี้และถูกจับมาแล้ว
วันที่ 11 ตุลาคม 2558 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางสาวสตรีรัตน์ หรือ กิ๊ป ปกัมพล อายุ 39 ปี ชาวปทุมธานี ว่า ตนเองเปิดร้านสปาอยู่ย่านคูคต จังหวัดปทุมธานี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.พีรพงษ์ บุญพัวพันธ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต ว่า ตนเองได้ถูก นางณัฎฐ์กฤตา หรือ ขวัญฤดี ศรีพันธุ์เนตร อายุประมาณ 40 ปี หลอกลวง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา นางณัฎฐ์กฤตา หรือ ขวัญฤดี ได้รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ในท่าอากาศการบินไทย และสามารถฝากเข้าทำงานได้ อีกทั้งยังรู้จักโรงพยาบาลของรัฐอีกหลายแห่ง และเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟู รวมถึงให้การช่วยเหลือให้เข้าทำงานที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย จนกระทั่งตนหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปจำนวน 50,000 บาท หลังจากนั้น ก็ได้มีการขอเงินเพิ่ม เอกสารเพิ่มขึ้น โดยจตนได้โอนเงินไปทั้งหมดกว่า 30 ครั้ง ตามเอกสารที่มี รวมเป็นจำนวนเงิน 947,700 บาท นอกจากนี้ ยังไม่รวมเรื่องการยืมเงิน เพื่อเดินเอกสาร ในการสมัครงานและติดต่อผู้ใหญ่ โดยตนได้เสียเงินไปทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท (หนึ่งล้านบาท) โดยขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามและจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หลังจากตนเองทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ และทีวี ว่า นางสาวขวัญฤดี นั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปแล้ว
ทางด้าน นางสาวสตรีรัตน์ หรือ กิ๊ป ยังกล่าวอีกว่า หลังจากตนเองทราบข่าวจากทางทีวีและหนังสือพิมพ์ ว่า นางณัฎฐ์กฤตา หรือ ขวัญฤดี ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกัน กับที่ตนเองหลงเชื่อว่าฝากเข้าทำงานการบินไทย และงานด้านเภสัชกรที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งในย่านกรุงเทพฯ ถูกจับ ตนจึงได้รวบรวมเอกสาร พร้อมทั้งใบเสร็จในการโอนเงินต่าง ๆ และหลักฐานคุยกันทางไลน์ และนำข้อความและเอกสารต่าง ๆ ที่เก็บไว้ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ทางด้าน นางสาวสตรีรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า นางณัฎฐ์กฤตา หรือ ขวัญฤดี ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจกองปราบฯจับไปนั้น ได้รู้จักกันมาเมื่อต้นปี 57 เมื่อเขาเข้ามาเป็นลูกค้าที่ร้าน และพูดคุยกันเรื่องฝากเข้างานและงานอีกหลายที่ จึงทำให้ตนเองหลงเชื่อ เนื่องจากทำการค้าไม่ค่อยดี จึงอยากเข้าทำงาน และต้องสูญเงินไปกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีหญิงสาวรายหนึ่งอยู่จังหวัดสมุทรปราการ ก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยเขาต้องเสียเงินไปกว่า 2 แสน ตนเองต้องปิดร้านสปา หลังจากถูกนางณัฎฐ์กฤตา หรือ ขวัญฤดี ได้หลอกลวงและฉ้อโกงเงินไป ทำให้ตนเองต้องปิดกิจการร้านสปาดังกล่าว
นอกจากนี้ ตนเองยังต้องไปขอหยิบยืมเขามา ทำให้ตนเองเสียเงินทองไปกว่า 1 ล้านบาท อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากทราบจากข่าวว่าผู้ต้องหาได้ถูกจับไปแล้ว แต่ยังก่อคดีอีก นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคนที่โดนหลอกแบบนี้เช่นกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาลงโทษ เพื่อลดปัญหาสังคม หลังจากตนสูญเสียเงินไป และยังไม่ได้ทำงาน ตนพยายามติดต่อไปหลายครั้ง และผู้ต้องหาก็ใช้หลายเบอร์ ตจึงนไม่สามารถติดต่อได้
ทางด้าน ร.ต.ท.พีรพงษ์ บุญพัวพันธ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ. คูคต บอกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับ นางสาวณัฎฐ์กฤตา ศรีพันธ์เนตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 10 ตำบลลำพยนต์ อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 484/2558 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ในข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” หากมีผู้ใดพบเห็นขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ทราบ หรือ โทร. 02531899
