xs
xsm
sm
md
lg

เมียทหารเหยื่อเสื้อแดงร้องสื่อประสานกองทัพรับเข้าราชการ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางชยาภัสร์ พิทยานนทกาญจน์ อุ้มลูกน้องเข้าพบนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพฯ
เมียทหารจ่าอากาศที่เสียชีวิตให้เหตุชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 อุ้มลูกน้อยร้องสมาคมผู้สื่อข่าวฯอาชญากรรม ช่วยประสานกองทัพอากาศ รับเข้าเป็นข้าราชการแทนสามีตามสัญญา

วันนี้ ( 11 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นางสุนทรี สร้อยสน อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนางชยาภัสร์ พิทยานนทกาญจน์ อายุ 31 ปี ภรรยา จ่าอากาศเอกพงศ์ชลิต ทิพยานนทกาญจน์ สังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะออกไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของกลุ่มผู้ ชุมนุมเสื้อแดง บริเวณศาลาแดง เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 ที่ผ่านมา ได้อุ้ม ด.ช.ชัชพงศ์ หรือน้องออโต้ พิทยานนทกาญจน์ ลูกชายวัย 11 เดือน เข้าพบ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพฯ เพื่อให้ช่วยประสานงานกับทางกองทัพอากาศเข้ามาดูแล และรับเข้าทำงานราชการ เพราะหลังสามีเสียชีวิตแล้วต้องเลี้ยงดูลูกด้วยความลำบาก

นางชยาภัสร์ กล่าวว่า หลังสามีเสียชีวิตก็ขาดผู้นำครอบครัว ทำให้ต้องอยู่อย่างลำบาก ซึ่งตอนสามีเสียชีวิตน้องออโต้ยังอยู่ในท้องได้แค่ 4 เดือนเท่านั้น ขณะนั้นทางกองทัพได้ให้เงินชดเชยจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อได้มาแล้วก็นำไปแบ่งกันคนละครึ่งกับครอบครัวสามี พอลูกชายคลอดออกมาก็นำเงินที่ได้มามาเลี้ยงดูลูกและใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ จนถึงตอนนี้เงินก็ค่อยๆ หมดไป เพราะหลังสามีเสียชีวิตตนต้องกลับไปเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านที่ อ.ศรีราชา ไม่มีงานทำเนื่องจากรอจะเข้ารับราชการกับทางกองทัพอากาศ ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้หลังสามีเสียชีวิตว่า จะให้ตนเข้ารับราชการเหมือนอย่างสามีตามที่ตนต้องการ แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไป 1 ปีกว่า ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที พอสอบถามทางกองทัพบอกว่าส่งเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการต้องรอให้มีตำแหน่งว่างก่อนแต่ยืนยันว่าได้เข้ารับราชการอย่างแน่นอน

นางชยาภัสร์ กล่าวต่อว่า เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาตนได้ไปติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า ทุกอย่างเหมือนเดิม ทางกองทัพบอกว่าให้รอไปก่อน ซึ่งหากปล่อยให้รออย่างนี้ตนไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ที่จะนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว เพราะทุกวันนี้จะได้รับเงินจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดือนละ 1,500 บาท และจากองค์การทหารผ่านศึก อีกเดือนละ 2,350 บาท เท่านั้น ไม่มีรายได้จากส่วนอื่นอีกเลย และเมื่อลูกชายป่วยไปรักษาก็เบิกไม่ได้ ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด จึงอยากให้ทางสมาคมฯ และสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางในการประสานกับทางกองทัพอากาศ เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวตนและให้ตนได้เข้ารับราชการอย่างที่รับปากไว้ เสียที เพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงครอบครัว และมีอาชีพได้รับใช้ประเทศชาติเหมือนสามีเท่านี้ก็พอใจแล้ว

ด้าน นายไพโรจน์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์แล้วทางสมาคมฯ ก็จะเร่งประสานงานกับกองทัพอากาศให้ เนื่องจากชีวิตของนางชยาภัสร์ น่าสงสารและน่าเห็นใจ เพราะต้องเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง ไม่มีอาชีพใดๆ จะเร่งประสานและสอบถามกับกองทัพอากาศให้ว่า มีโอกาสมากน้อยเพียงใดที่นางชยาภัสร์จะได้เข้ารับราชการตามที่เคยรับปากไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น