22 วัน หลังเหตุการณ์ กระสุนปืนปริศนา ลั่นใส่ร่างของ นายสุนทร ฤทธิภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี...
9 วัน ของการเสียชีวิต หลังฝูงนกกระดาษสันติภาพ นับร้อยล้านตัว ถูกโปรยปรายจากฟากฟ้า สู่มือพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้...
แต่สำหรับคดี"ปืนลั่น"ยังไม่มีบทสรุปสุดท้าย...ว่าแท้ที่จริงแล้ว ใคร คือผู้ทำปืนลั่น(ตัวจริง) และที่ซ้ำร้าย คดีปริศนาคดีนี้ ได้เพิ่มความสันสนให้กับผู้คน เมื่อผลสอบสวนกลับพลิกจาก (ปืน อส.ไปสู่ ปืนพลทหาร)
จากเดิม นายอับดุล แวดอเลาะ อาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดปัตตานี คือ ผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยที่ นายอับดุล แพะปืนลั่น ต้องอยู่ระมัดระวังตัว เพราะเกรงจะถูกอุ้ม รวมทั้งรู้สึกน้อยใจ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดรองผู้ว่าฯ สุนทร แต่กลับถูกกล่าวหาว่าทำปืนลั่น...
เรื่องนี้ นายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บอกว่า”คดียิงรองผู้ว่าฯปัตตานีไม่ใช่คดีที่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน แต่กลับกลายเป็นคดีที่อึมครึม ซึ่งถ้าสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่ยืนยันว่าเศษกระสุนที่พบจากกางเกงในของนายสุนทร เป็นกระสุนปืนเอ็ม 16 (บาป)ก็จะตกอยู่กับ อส.อับดุล”
มาวันนี้ พลทหารธีรเดช พงษ์เพชร สังกัด ร.5 พัน1 ค่ายเสนาณรงค์ คือ พลทหารผู้ต้องสงสัย ที่ถูกนำตัวเข้าเครื่องจับเท็จ และตกเป็นผู้ต้องหาในวันต่อมา หลังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมๆกับสรุปสั่งไม่ฟ้อง อส.อับดุล เหยื่อผู้บริสุทธิ์
ด้าน พ.ท.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับกองพัน ร.5 พัน 1 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วยราชการหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ 22 ปัตตานี ในฐานะผู้บังคับบัญชา และอยู่ในที่เกิดเหตุ กลับกลายเป็น นายทหาร ที่ตกเป็นข่าวว่าชุดสอบสวนสงสัยว่าน่าจะให้การเท็จเพื่อปกป้องลูกน้อง และ โยนความผิดให้กับ อส.อับดุล...ทำให้ คดีปืนลั่น ปิดสำนวนไม่ลง...
8 ธ.ค.พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ยังคงให้ข่าวพุ่งเป้าไปที่ อส.อับดุล และบอกว่า ประมาณ 2 วัน จะสรุปสำนวนให้อัยการส่งฟ้องได้ โดยมี พ.ต.อ.สุธน ดิษยบุตร ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง คือนายตำรวจ ที่ออกมายืนยันเพิ่มน้ำหนักพยานหลักฐานมัดตัว นายอับดุล...
"อส.อับดุล หรือ พลฯธีรเดช" บุคคลทั้ง 2 ใครคือคนทำปืนลั่นตัวจริง และใครคือเหยื่อ หรือ ทั้งสองคือแพะ หลังจากก่อนหน้านี้....พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ตำรวจนายแรกที่ อส.อับดุล เข้าพบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ถูกพิษปืนลั่น เด้งช่วยราชการ( สตช.)โทษฐานคดีไม่คืบหน้ามาแล้ว...
จากคำพูดของ พ.ท.คมกฤช ที่บอกว่า "หลังเกิดเหตุฝ่ายทหารให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ในการสอบสวนหาที่มาของกระสุนปริศนา และปืนของทหารทุกนายที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ทำการตรวจสอบแล้ว 2 รอบ รวมทั้งการตรวจสอบวิถีกระสุน โดยมั่นใจว่า ทหารไม่ได้ทำปืนลั่นใส่รองผู้ว่าฯ ปัตตานี อย่างแน่นอน...(เป็นคำยืนยัน ที่เชื่อถือได้หรือไม่ เมื่อ ลูกน้อง ตกเป็นผู้ต้องหา)
คดีปืนลั่น...ที่วันนี้ พลทหารธีรเดช คือบุคคลที่ เข้ามาอยู่ในฐานะผู้ต้องหาแทนที่ นายอับดุล อส.ผู้ถูกใส่ร้าย...ทั้งที่บุคคลทั้ง 2 ได้ยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำปืนลั่น...โดยมี พ.ท.คมกฤช คือนายทหารที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ให้การปกป้องลูกน้อง...
จากนี้ไป ตำรวจ จะปิดคดีลงท่ามกลางความมืดเช่นนี้หรือ...หรือทิ้งเป็นปมปริศนา “ปืนลั่น”เพื่อรอให้ผู้คนลืมเลือน ไปพร้อมๆกับวัน เวลา ที่ผ่านไป....
9 วัน ของการเสียชีวิต หลังฝูงนกกระดาษสันติภาพ นับร้อยล้านตัว ถูกโปรยปรายจากฟากฟ้า สู่มือพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้...
แต่สำหรับคดี"ปืนลั่น"ยังไม่มีบทสรุปสุดท้าย...ว่าแท้ที่จริงแล้ว ใคร คือผู้ทำปืนลั่น(ตัวจริง) และที่ซ้ำร้าย คดีปริศนาคดีนี้ ได้เพิ่มความสันสนให้กับผู้คน เมื่อผลสอบสวนกลับพลิกจาก (ปืน อส.ไปสู่ ปืนพลทหาร)
จากเดิม นายอับดุล แวดอเลาะ อาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดปัตตานี คือ ผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยที่ นายอับดุล แพะปืนลั่น ต้องอยู่ระมัดระวังตัว เพราะเกรงจะถูกอุ้ม รวมทั้งรู้สึกน้อยใจ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดรองผู้ว่าฯ สุนทร แต่กลับถูกกล่าวหาว่าทำปืนลั่น...
เรื่องนี้ นายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บอกว่า”คดียิงรองผู้ว่าฯปัตตานีไม่ใช่คดีที่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน แต่กลับกลายเป็นคดีที่อึมครึม ซึ่งถ้าสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่ยืนยันว่าเศษกระสุนที่พบจากกางเกงในของนายสุนทร เป็นกระสุนปืนเอ็ม 16 (บาป)ก็จะตกอยู่กับ อส.อับดุล”
มาวันนี้ พลทหารธีรเดช พงษ์เพชร สังกัด ร.5 พัน1 ค่ายเสนาณรงค์ คือ พลทหารผู้ต้องสงสัย ที่ถูกนำตัวเข้าเครื่องจับเท็จ และตกเป็นผู้ต้องหาในวันต่อมา หลังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมๆกับสรุปสั่งไม่ฟ้อง อส.อับดุล เหยื่อผู้บริสุทธิ์
ด้าน พ.ท.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับกองพัน ร.5 พัน 1 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วยราชการหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ 22 ปัตตานี ในฐานะผู้บังคับบัญชา และอยู่ในที่เกิดเหตุ กลับกลายเป็น นายทหาร ที่ตกเป็นข่าวว่าชุดสอบสวนสงสัยว่าน่าจะให้การเท็จเพื่อปกป้องลูกน้อง และ โยนความผิดให้กับ อส.อับดุล...ทำให้ คดีปืนลั่น ปิดสำนวนไม่ลง...
8 ธ.ค.พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ยังคงให้ข่าวพุ่งเป้าไปที่ อส.อับดุล และบอกว่า ประมาณ 2 วัน จะสรุปสำนวนให้อัยการส่งฟ้องได้ โดยมี พ.ต.อ.สุธน ดิษยบุตร ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง คือนายตำรวจ ที่ออกมายืนยันเพิ่มน้ำหนักพยานหลักฐานมัดตัว นายอับดุล...
"อส.อับดุล หรือ พลฯธีรเดช" บุคคลทั้ง 2 ใครคือคนทำปืนลั่นตัวจริง และใครคือเหยื่อ หรือ ทั้งสองคือแพะ หลังจากก่อนหน้านี้....พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ตำรวจนายแรกที่ อส.อับดุล เข้าพบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ถูกพิษปืนลั่น เด้งช่วยราชการ( สตช.)โทษฐานคดีไม่คืบหน้ามาแล้ว...
จากคำพูดของ พ.ท.คมกฤช ที่บอกว่า "หลังเกิดเหตุฝ่ายทหารให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ในการสอบสวนหาที่มาของกระสุนปริศนา และปืนของทหารทุกนายที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ทำการตรวจสอบแล้ว 2 รอบ รวมทั้งการตรวจสอบวิถีกระสุน โดยมั่นใจว่า ทหารไม่ได้ทำปืนลั่นใส่รองผู้ว่าฯ ปัตตานี อย่างแน่นอน...(เป็นคำยืนยัน ที่เชื่อถือได้หรือไม่ เมื่อ ลูกน้อง ตกเป็นผู้ต้องหา)
คดีปืนลั่น...ที่วันนี้ พลทหารธีรเดช คือบุคคลที่ เข้ามาอยู่ในฐานะผู้ต้องหาแทนที่ นายอับดุล อส.ผู้ถูกใส่ร้าย...ทั้งที่บุคคลทั้ง 2 ได้ยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำปืนลั่น...โดยมี พ.ท.คมกฤช คือนายทหารที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ให้การปกป้องลูกน้อง...
จากนี้ไป ตำรวจ จะปิดคดีลงท่ามกลางความมืดเช่นนี้หรือ...หรือทิ้งเป็นปมปริศนา “ปืนลั่น”เพื่อรอให้ผู้คนลืมเลือน ไปพร้อมๆกับวัน เวลา ที่ผ่านไป....