xs
xsm
sm
md
lg

ประลองเชิงยกใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: พระบาท นามเมือง

เหมือนกับว่าช่วงก่อนนี้เป็นเวลาของการถกรัฐธรรมนูญ ทิศทางและกระแสติดตามทางการเมืองส่วนใหญ่ก็เทไปทางนั้น

ส่วนรัฐบาลเองก็จะต้องพยายามสร้างผลงาน หลังจากเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งอย่างหนักจากกลุ่มกองแช่ง และอย่างเบาจากกองเชียร์ที่ยังให้โอกาสอยู่ว่าการบริหารงานแก้ปัญหาประเทศในระยะปัจจุบันนี้ยังไม่เห็นผล

โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายเหมือนจะเห็นตรงกัน และสาเหตุสำคัญก็มาจากการบริหารนโยบายแบบประชานิยมที่ใช้เงินไปเพื่อปรนเปรอฐานคะแนนเสียงโดยก่อให้เกิดภาระหนี้และไม่เกิดรายได้แก่ประเทศชาตินั่นเอง

แต่กระนั้นการ “เช็กบิล” กับผู้ที่ชักพาให้ประเทศมาสู่วิกฤตชั่วทศวรรษ คือระบอบทักษิณ ตัวทักษิณเอง และบริวาร จึงเหมือนเนือยๆ ลง เช่น คดีอดีตนายกฯ ปูก็ว่ากันไปตามกระบวนยุติธรรม มีการไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและประกันตัวออกมาแล้ว ก็รอกระบวนพิจารณาของศาลกันไป

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เริ่มมีการ “แลกหมัด” กันประปราย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากฝ่ายทักษิณ “รนหาที่” เอง

เริ่มจากการไปพูดที่เกาหลีใต้ ในงานเสวนาหัวข้อ “70 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 : การรักษาสันติภาพและความสงบรุ่งเรืองของเอเชีย” ซึ่งถือเป็นการออกจากมุมของตัวเองมาให้แสงไฟส่องอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 และเป็นการใช้วิธีการเดิมๆ ด้วยยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย โดยเลือกไปในประเทศใหญ่ประเทศหนึ่งของเอเชียร่วมกับคนที่พอมีชื่อเสียงระดับโลก คนอื่นๆ ซึ่งก็มี ฮอร์สต์ โคห์เลอร์ อดีตประธานาธิบดีเยอรมนีและอดีตผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ชัค ฮาเกล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ชุง จงวุค รองประธานคณะกรรมการเตรียมการรวมชาติ ของเกาหลีใต้ นาโอโตะ คัง อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และถัง เจียสวน อดีตมุขมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน

เป็นเกมเรียกราคาให้สาวกฮือฮากันได้ตามสมควร แต่ปัญหาก็คือความปากบอนของแก ที่คล้ายวาจาแม่เหล็ก เรียกก้อนหินและรองเท้าจากทั่วสารทิศ

นั่นเพราะในระหว่างที่เล่าเรื่องเศร้าเคล้าความเท็จของตัวเองและครอบครัวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกาหลี ก็ดันพูดพาดพิงองคมนตรีเข้า จนทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาตอบโต้ รวมถึงการดำเนินการทางกฎหมายที่เฉียบขาดด้วย ได้แก่การฟ้องร้องเอาผิดในความผิดฐานหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากคำสัมภาษณ์บางจุดบางตอนมีความหมิ่นเหม่ไปในทางนั้น

ทันทีทันใดนั้น ก็มีการเรียกพาสปอร์ตคืน ซึ่งเท่ากับเป็นท่าทีทางการทูตว่าไม่รับรองสถานะความเป็น “คนไทย” ในต่างแดนของเขาแล้ว เป็นเพียงผู้ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมาย และเป็นผู้หนีออกนอกเมืองเท่านั้น

ตามด้วยกระบวนการถอดยศจากพันตำรวจโทเหลือเพียงนาย เพื่อรอเปลี่ยนเป็นคำนำหน้านามสุดท้ายหากทางการไทยได้ตัว คือ นักโทษชาย

และแน่นอนว่าเมื่อถูกถอดยศแล้ว ก็ต้องตามมาด้วยการริบเครื่องราชย์ต่างๆ ให้ราวกับเหมือนว่าไม่เคยรับราชการมาก่อนเลย

ทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ คือผลของการปากอยู่ไม่สุขของทักษิณโดยแท้ แต่กระนั้นก็เกิดข้อกังขาของคนอีกส่วนหนึ่งว่า อันที่จริงเรื่องที่ทักษิณนั้นต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและหลบหนีคดีนั้นก็เป็นเรื่องชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2551 เข้าไปแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นเป็นข้อเท็จจริงแบบไม่ต้องสืบด้วย แต่ทำไมกระบวนการเพิกถอนพาสปอร์ตก็ดี การถอดยศเรียกเครื่องราชย์ก็ดี จึงดำเนินการอย่างชักช้าใช้เวลาร่วม 7 ปีขนาดนี้

ทำให้ราวกับว่า ถ้าทักษิณอยู่ดีๆ ไม่ปากบอนขั้นสูงสุดจนไปกระทบสถาบันเบื้องสูงอันเป็นที่เคารพของคนไทย ก็ไม่มีใครคิดว่าคนต้องคำพิพากษาหนีคดีจะต้องถูกถอดยศยึดพาสปอร์ตอย่างนั้นแหละ!

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าเป็นการเปิดการแลกหมัดกันชุดใหญ่ บอกให้เราได้รู้ว่า ทางฝ่ายทักษิณนั้นไม่หยุดหรอก เพียงแต่ดูเชิงอยู่ในมุม ถ้ามีโอกาส มีแสงไฟสาดส่อง ก็จะออกจากมุมมา “ปล่อยของ” สักที

ส่วนฝ่ายทางการไทยที่ขณะนี้กุมบังเหียนเบ็ดเสร็จโดยฝ่ายทหาร ก็พร้อมที่จะต่อยสวนตอบโต้ได้ทันทีหากมีการเคลื่อนไหวประเภทเข้ามาโจมตีกล่องดวงใจของคนไทย คือสถาบันเบื้องสูง

อย่างน้อยก็บอกเราว่า “มวยยังไม่จบ”

แม้เครือข่ายเสื้อแดงจะนั่งนิ่งอยู่ในที่ตั้ง อดีตแม่ปูไปเก็บเห็ดถ่ายรูปออกโซเชียล พี่เต้นหัวหอกทะลวงฟันไปขับแท็กซี่เล่น หรือบางคนไปเปิดร้านกาแฟ ทำตัวโลว์โปรไฟล์ให้ความร่วมมือกับทหาร

การเคลื่อนไหวแหย่เสือที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง ก็มาจากบรรดากลุ่มที่มีความเชื่อมโยงอยู่บ้างกับเครือข่ายเสื้อแดง แม้ยังไม่ชัดเจนนักเช่นกลุ่มนักศึกษาที่มาชุมนุมรำลึกรัฐประหารที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพฯ รอบก่อน แต่ก็พออนุมานได้ว่าเป็นฝ่ายร่วมอุดมการณ์เดียวกัน

ดังนั้น ประมาทไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ในสื่อต่างประเทศ ก็ยังมีการวิเคราะห์ตีความเรื่องการเผยแพร่ภาพปลูกเห็ดเก็บเห็ดของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รวมถึงเสื้อยืดสีขาวเขียนคำว่า “ชีวิตธรรมดา” ด้วย ว่าหมายความว่าอะไร หรือเป็นการส่งสารสื่อสารอันใดออกมา

ดังนั้น ฝ่ายต่อต้านซึ่งเป็นกองทัพของระบอบทักษิณนั้นไม่ใช่แกล้งตาย หรือหลับรอ แต่อาจจะเริ่มลุกขึ้นมานั่งกันเงียบๆ เข้าแล้วด้วยซ้ำไป

และแน่นอนว่า โอกาสใหญ่ โอกาสสำคัญที่ทางฝ่ายโน้นจะเข้ามาสู่พื้นที่สนามได้อย่างชอบธรรมโดยทางอ้อม ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวเองหรือผ่านใครก็ได้แก่ช่วงเวลาสุกดิบ ก่อนที่จะต้องมีกระบวนการลงประชามติรับรองรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปโดยประชาชนนั่นแหละ

ที่จะถือเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ “คุยการเมือง” ในประเด็นรัฐธรรมนูญซึ่งจะขยายพื้นที่การโจมตีพาดพิงได้หลากหลายแน่ๆ เว้นแต่จะเปิดให้ทำประชามติรัฐธรรมนูญกันแบบเงียบๆ ห้ามอภิปรายหรือแสดงความคิดเห็น ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก็จะถูกโลกและชาวบ้านนินทาเสียเปล่าๆ

นี่คือสิ่งที่ คสช. และรัฐบาลจะต้องเตรียมตัวและคิดกันให้ดี ถึงการรับมือที่รอเกิดขึ้นแน่ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

เว้นแต่จะมีอุบัติเหตุอะไรทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปนี้แท้งไปก่อนกระบวนการลงประชามติ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ยากต่อการคาดเดาจริงๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น