จีนพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารใต้น้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งจะช่วยให้เรือดำน้ำและโดรนสามารถรักษาการติดต่อได้มากกว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึงเกือบ 200 บิตต่อวินาที (bps) ซึ่งเทียบเท่ากับแบนด์วิดท์ของวิทยุความถี่ต่ำโดยใช้เสาอากาศบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
รายงานระบุว่า ข้อความที่ถูกส่งโดยเข้ารหัสนั้นไม่มีความผิดพลาดเลย แม้ถูกเสียงรบกวนอย่างหนักระหว่างทาง
เสียงความถี่ต่ำ เช่น คลื่นเสียงของวาฬสามารถเดินทางในมหาสมุทรเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร อย่างไรก็ดี การจับสัญญาณและถอดรหัสข้อมูลเป็นเรื่องยาก
คลื่นเสียงสามารถแผ่กระจายไปในทิศทางและความเร็วที่ต่างกันขณะเดินทางผ่านกระแสน้ำหรือกระทบภูเขาในทะเล ยิ่งระยะทางไกล คุณภาพของสัญญาณจะยิ่งแย่ลงเมื่อไปถึงเครื่องรับ
ศาสตราจารย์หลิว ซ่งจั่ว หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ผู้พัฒนาเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยฮาร์บิน เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยของจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรได้ทำการทดลองเทคโนโลยีใต้พื้นทะเลลึก 3,800 เมตรในทะเลจีน และเปิดเผยว่า ผลการทดลองในทะเลจีนใต้ได้พิสูจน์ถึง “ประสิทธิภาพที่ดี” ของเทคโนโลยีใหม่ในการเพิ่มระยะและประสิทธิภาพการสื่อสารใต้น้ำ
ปัจจุบัน จีนกำลังพัฒนาอาวุธอัจฉริยะและโดรนที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบเป็นฝูง ซึ่งต้องส่งสัญญาณติดต่อกันตลอดเวลาเพื่อแบ่งปันข่าวกรอง วางแผนเส้นทาง หรือประสานงานการโจมตี ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอาวุธทางไกในอนาคตต่อไป