กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (7 ม.ค.) “หลี่ เค่อเฉียง” นายกรัฐมนตรีจีนเสนอปรับลดภาษีมากขึ้น หลังจีนเผชิญผลกระทบโควิด-19 ระลอกใหม่ ผสมโรงด้วยวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
“เศรษฐกิจของประเทศเรากำลังเผชิญกับแรงกดดันใหม่ ๆ ... เรามีความจำเป็นต้องลดภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อให้เศรษฐกิจในไตรมาสแรกและเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ... รัฐบาลต้องรัดเข็มขัดเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ” นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจีนในการประชุมวันพุธ (5 ม.ค.) ที่กรุงปักกิ่ง
นายหลี่ฯ ชี้ความจำเป็นในการขยายเวลาการลดภาษีสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดเล็ก และธุรกิจส่วนบุคคล โดยเฉพาะภาคบริการยังต้องการมาตรการลดหย่อนภาษีที่เฉพาะเจาะจงอีกด้วย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ "เสถียรภาพโดยรวม" สำหรับภาคธุรกิจ
นายกรัฐมนตรีจีนเห็นว่า อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนักโควิด-19 เนื่องจากผู้คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น และใช้เงินเพื่อรับประทานอาหารนอกบ้าน การเดินทาง และกิจกรรมยามว่างอื่นๆ น้อยลง
ที่ผ่านมา นโยบายควบคุมโควิด-19 ของจีนได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่การบังคับใช้กฎระเบียบต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวดได้สร้างความเสียหายแก่นักพัฒนารายใหญ่ นอกจากนี้ การปราบปรามยักษ์ใหญ่ภาคเทคโนโลยี การศึกษา และความบันเทิงได้สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล ก่อให้เกิดการเลิกจ้างจำนวนมากในหลายบริษัท และส่งผลกระทบต่อการจ้างงานใหม่
เมื่อการประชุมครั้งสำคัญเมื่อ ธ.ค. 64 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและผู้นำระดับสูงคนอื่น ๆ ยืนยันว่า "ความมั่นคง" เป็นความสำคัญสูงสุดของพวกเขาในปี 2565
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารโลกได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2565 จากร้อยละ 5.4 เป็นร้อยละ 5.1 โดยเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดเป็นอันดับสองของจีนนับตั้งแต่ปี 2533